นักวิเคราะห์ประเมินตลาดหุ้นไทยเช้านี้เป็นแบบ Sideway แกว่งตัวไม่มากนัก รอดูปัจจัยตลาดหุ้นต่างประเทศเป็นหลัก เพราะตอนนี้ยังไม่มีปัจัยใหม่ๆผลักดันตลาดหุ้นไทย แนะนักลงทุนเลือกเล่นหุ้นรายตัว พร้อมให้แนวรับ 773 แนวต้าน 777 จุด
นายจักรกริช เจริญเมธาชัย รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้าวันนี้ยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ โดยการปรับตัวขึ้น-ลงของดัชนีหุ้นคงไม่มากนัก เพราะยังไม่มีปัจจัยใหม่ๆ เข้ามาผลักดันตลาดหุ้นให้เคลื่อนไหวได้มากนักนัก ดังนั้น ถ้าขึ้นก็ไม่มากนักและลงก็ไม่มากนัก ยังคงต้องอิงกับตลาดหุ้นต่างประเทศว่าจะเป็นในทิศทางใด
สำหรับนักลงทุนต้องลงทุนในลักษณะการลงทุนแบบ Selective เลือกเล่นหุ้นรายตัวที่มีประเด็นน่าสนใจ กรอบการลงทุนให้แนวแนวรับที่ 773 แนวต้านที่ 777 จุด
ขณะที่ สถาบันวิจัยนครหลวงไทย มองว่า ดัชนีฯมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นในกรอบ 767-775 จุด โดยได้รับแรงหนุนจากตลาดหุ้นนิวยอร์กสามารถดีดขึ้นมา 38.54 จุด หรือ 0.38% หลังจากที่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐเดือน มิ.ย. ปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ที่ 75.5 จากระดับ 73.6 ในเดือนพ.ค. ถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.51 และมากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ 74.5 ได้ช่วยชดเชยยอดค้าปลีกที่อ่อนแอ ปัจจัยดังกล่าว ทำให้ดัชนีวัดความกลัวในการลงทุน (Vix Index) ปรับลดลงต่ำกว่า 30 จุดในรอบ 1 เดือน
อย่างไรก็ตาม ยังต้องติดตามปัญหาหนี้ในยุโรปอย่างใกล้ชิด โดยคาด ECB อยู่ระหว่างประเมินว่าจะเปิดเผย“การทดสอบภาวะวิกฤติ”(Stress Test) ของธนาคารในยุโรปให้ตลาดหรือไม่ โดยเบื้องต้นเผยสถาบันการเงินในสเปนจะเสียหายมากที่สุด อีกทั้ง การเปิดเผยผลทดสอบโดยไม่มีการเตรียมความพร้อมด้านกองทุนที่จัดตั้งเพื่อช่วยเหลือเงินทุนแก่สถาบันเงินดังเช่นสหรัฐฯ จะส่งผลลบระยะสันต่อตลาดในอนาคต
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อวันศุกร์(11 มิ.ย.)ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 10,211.07 จุด เพิ่มขึ้น 38.54 จุด (+0.38%)เอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,091.60 จุดจุด เพิ่มขึ้น 4.76 จุด(+0.44%) ดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 2,243.60 จุด พุ่งขึ้น 24.89 จุด (+1.12%)
- นักลงทุนต่างชาติต่างชาติซื้อสุทธิ 362.56 ล้านบาทเมื่อวันที่ 11 มิ.ย.
- ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนก.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการเมื่อวันศุกร์ที่ 73.78 ดอลลาร์/บาร์เรล ร่วงลง 1.70 ดอลลาร์หรือ 2.25%
- นายกรัฐมนตรี ชี้แผนปรองดองแห่งชาติจะไม่มีการละเว้นโทษทางกฎหมายกับบุคคลที่ใช้ความรุนแรงก่อการร้ายและสร้างความเสียหายให้ประเทศ โดยนายกฯ อ้อนนายกเล็กช่วยรัฐเสนอแผนปรองดองทางออกการเมืองไทย ขณะที่ “สุเทพ" ระบุแนวทางนิรโทษกรรม ยังไม่สรุปต้องชั่งผลดีเสียก่อน ยันรัฐไม่มีขบวนการไล่ล่าคนเสื้อแดง ด้าน “ชวนนท์"เผยบัวแก้วเตรียมเชิญองค์กรสิทธิมนุษยชนทุกองค์กร เข้ารับฟังทำงานของรัฐบาลตามแผนปรองดอง 5 ข้อ ในสัปดาห์หน้านี้
- นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและเลขา- ธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสข่าวซื้อตัว ส.ส. เพื่อลงคะแนนเสียงในการพิจารณาร่างงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2554 ว่าเรื่องเสถียรภาพของรัฐบาลมี การถามมา 5 ครั้งแล้ว วันนี้ขอยืนยันอีกเป็นครั้งที่ 6-7 ก็ได้ว่าเสถียรภาพของรัฐบาลมีความมั่นคง ในฐานะที่เป็นผู้จัด การรัฐบาลยืนยันให้สบายใจว่าเสียงสนับ สนุนของรัฐบาลมากกว่าฝ่ายค้านแน่นอน จะไม่มีปัญหาในการพิจารณางบประมาณอย่างแน่นอน
- แหล่งข่าวจากธนาคารพาณิชย์เปิดเผยว่า ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.)ได้แจ้งมายังสมาคมธนาคารไทยขอข้อมูลลูกหนี้นักการเมืองที่ถูกระงับธุรกรรมจำนวน 140 ราย เพิ่มเติมกรณีที่ลูกหนี้รายดังกล่าวเข้าไปถือหุ้นนิติบุคคลเกิน 20% ซึ่งถือว่ามีอำนาจในการบริหารและเป็นกรรมการบริษัท
- กรอ.เร่งติดตามความคืบหน้ามาตรการภาษีเพิ่มขีดแข่งขัน ชี้ระยะยาวควรลดภาษีนิติบุคล เหลือ 25-28% ขณะที่ระยะสั้นเสนอใช้มาตรการภาษีกระตุ้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยว เสริมสภาพคล่องผู้ประกอบการ หนุน ตั้ง อีโค ทาวน์ เอกชน แก้ปัญหาอย่างยั่งยืน ด้านส.อ.ท.แนะแบงก์ชาติคงดอกเบี้ยนโยบาย 1.25% ถึงสิ้นปีนี้ พร้อมดูแลค่าเงินให้มีเสถียรภาพเหมือนคู่แข่ง เผยค่าเงินแข็ง 1 บาทฉุดรายได้ผู้ส่งออกปีละ 1.7 แสนล้านบาท
- ส.อ.ท.ระบุการขาดแคลนแรงงานในภาคอุตสาหกรรมยังเป็นปัญหาหลักสำหรับผู้ประกอบการโรงงาน เบื้องต้นคาดว่าขาดแคลนราว 500,000-600,000 ราย ในภาคอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ เสื้อผ้าและสิ่งทอ รองเท้า และอาหาร เป็นต้น
- ตลท.เตรียมเก็บค่าธรรมเนียมส่วนเพิ่มบริษัทที่ฟรีโฟลตไม่ถึงเกณฑ์ เพื่อกระตุ้นให้รีบแก้ไขหลังผ่อนผันมา 2 ปี เหตุไม่เห็นพัฒนาการของบริษัทดังกล่าว ส่วนการแก้ไขเกณฑ์การกำกับดูแล บจ. 3 เรื่อง "การเปิดเผยข้อมูล-รับหลักทรัพย์-บริษัทในกลุ่มเอ็นพีจี" เสนอให้ผู้จัดการคนใหม่พิจารณาแม้ที่ผ่านมาจะได้รับความเห็นชอบหลักการแล้ว คาดเสนอให้บอร์ดพิจารณาในการประชุมเดือน มิ.ย.
- กรมธนารักษ์ เร่งประเมินราคาที่ดินก่อนประกาศราคาใหม่ 1 ม.ค.55 รองรับ กม.ภาษีที่ดินและให้สอดคล้องกับราคาตลาด เตรียมนำระบบประเมินราคาแบบดิจิตอลมาใช้ประเมิน 30 ล้านแปลง ให้เกิดความชัดเจนของราคาและจัดเก็บภาษีได้สะดวก