(เพิ่มเติม) SENA ลดโครงการใหม่ปีนี้เหลือ 6 โครงการ, เพิ่มงบซื้อที่ดิน-ทาบซื้อสนามกอล์ฟ

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday June 14, 2010 12:39 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.เสนาดีเวลลอปเม้นท์(SENA)เตรียมปรับลดจำนวนโครงการใหม่ที่จะเปิดตัวในปีนี้เหลือ 6 โครงการ จากเดิมที่เตรียมแผนงานไว้ 7 โครงการ โดยมูลค่าโครงการลดลงเหลือ 3.5 พันล้านบาท จากเดิมมีมูลค่าโครงการรวม 4 พันล้านบาท เนื่องจากเกรงผลกระทบจากปัญหาการเมืองที่มีต่อภาพรวมเศรษฐกิจ

อย่างไรก็ตาม ในทางกลับกันก็เตรียมปรับเพิ่มงบซื้อที่ดินจากที่ตั้งไว้ 700 ล้านบาทในปีนี้เนื่องจากมองว่าโอกาสเปิดให้สะสมที่ดิน และบริษัทมีกระแสเงินสดเพียงพอ พร้อมกันนั้น บริษัทยังมีแนวคิดที่จะซื้อสนามกอล์ฟ เพื่อนำมาพัฒนาต่อ และเพื่อเป็นรายได้ค่าเช่าที่เพิ่มขึ้น โดยคาดว่าจะมีข้อสรุปได้ในปี 54

ส่วนรายได้ทั้งปีนี้ คงเป้าหมายไว้ที่ 1.5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 1.3 พันล้านบาทในปี 52 แม้ว่ารายได้ในช่วงไตรมาส 2/53 จะลดลงจากไตรมาส 1/53 ราว 10-20% แต่ก็เป็นไปตามฤดูกาลปกติของบริษัท

นางเกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการและกรรมการบริหาร SENA เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างการทบทวนการลดการเปิดโครงการใหม่ในปีนี้ ซึ่งเป็นการชะลอการเปิดโครงการคอนโดมิเนียมย่านลาดพร้าว 1 โครงการ จากเดิมจะเปิดโครงการในไตรมาส 3/53 เนื่องจากปัจจัยทางการเมืองทำให้บริษัทมีความกังวลว่าอาจกระทบต่อการเติบโตเศรษฐกิจ และอาจทำให้กำลังซื้อของประชาชนลดลง ขณะเดียวกันพบว่าซัพพลายในตลาดของโครงกาคอนโดมิเนียมมีค่อนข้างสูง

อย่างไรก็ตาม บริษัทจะรอดูสถานการณ์ เพื่อประเมินอีกครั้ง หากสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติ มีความเป็นไปได้ที่ปลายไตรมาส 4/53 อาจจะดึงโครงการรคอนโดมิเนียมย่านลาดพร้าวกลับมาดำเนินการก็เป็นไปได้

ทั้งนี้ แม้บริษัทมีการลดการพัฒนาโครงการลงจากแผนเดิม แต่เชื่อว่าจะไม่กระทบต่อเป้าหมายรายได้ของบริษัทที่ปีนี้คาดว่าจะรายได้ 1.5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีรายได้ 1.3 พันล้านบาท และยังคงเป้าหมายยอดขายที่ 1.7 พันล้านบาท เนื่องจากต้นปีมียอดขายสะสมจำนวนมาก เนื่องจากลูกค้าได้เร่งซื้อและโอนเพื่อรับผลมาตรการภาษีกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ นอกจากนี้ บริษัทมี backlog รอรับรู้รายได้ในปีนี้ จำนวน 800 ล้านบาท

สำหรับรายได้ในไตรมาส 2/53 ยอมรับว่าอาจลดลงจากไตรมาส 1/53 ประมาณ 10-20% เนื่องจากเป็นช่วงที่มีวันหยุดมาก และมีการเร่งโอนในช่วงไตรมาส 1/53 ค่อนข้างมากแล้ว และเป็นช่วง Low Season ที่จะมีรายได้น้อยที่สุดของปีอยู่แล้ว

นอกจากนี้ บริษัทมีแผนเพิ่มวงเงินเพื่อจัดซื้อที่ดินในปีนี้ จากเดิม 700 ล้านบาท เนื่องจากมองว่าสถานการณ์ปัจจุบันเป็นโอกาสจัดซื้อที่ดินสะสม ขณะที่บริษัทมีฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง มีเงินสดในมือ 400 ล้านบาท และมี D/E 0.4 เท่า

และการที่บริษัทได้มีการพัฒนาโครงการให้เช่าที่อยู่อาศัย ย่านเจริญกรุง ขณะนี้อยู่ระหว่างการออกแบบ มูลค่าโครงการ 500 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นการเพิ่มรายได้ค่าเช่า นอกเหนือจากรายได้จากโครงการอสังหาริมทรัพย์ คาดว่าโครงการดังกล่าวจะเริ่มรับรู้รายได้ในปลายปี 55 ช่วยเพิ่มสัดส่วนรายได้ค่าเช่าให้เป็น 5% จากปัจจุบันอยู่ที่ 1%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ