หุ้น SYNTEC ราคาปิดภาคเช้าวิ่งขึ้น 3.96% มาอยู่ที่ 1.05 บาท เพิ่มขึ้น 0.04 บาท มูลค่าซื้อขาย 59.36 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 1.02 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1.08 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 1.02 บาท
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส(ประเทศไทย)แนะ"ซื้อ"หุ้น บมจ.ซินเท็คคอนสตรัคชั่น(SYNTEC)ชอบในประเด็นจับตลาดเฉพาะที่ชำนาญ คือ งานอาคาร และได้ประโยชน์จากการขยายรถไฟฟ้าในอนาคต, การรบกวนจากบริษัทร่วมทุนซินเท็ค-ไมวานลดลงมาก, การบริหารงานอนุรักษ์นิยม และ ฐานะการเงินดี หนี้สินต่ำ
ทั้งนี้ ได้มีการปรับลดคาดการณ์กำไรสุทธิปี 53 และ 54 ลงในอัตรา 11% และ 8% ตามลำดับ เพื่อสะท้อนถึงรายได้จากการก่อสร้างที่น้อยลงตามงานก่อสร้างที่มีความล่าช้า หลังมีการชุมนุม นปช.กีดขวางการเข้าทำงานในช่วงที่ผ่านมา แต่มีข้อดีคือ แนวโน้มความสามารถการทำกำไรดีขึ้น หลังผลขาดทุนของบริษัทร่วมทุน ซินเท็ค-ไมวาน ลดน้อยลงจากปีที่ผ่านๆมา ส่วนการตั้งสำรองในบริษัทร่วมทุนแห่งนี้จะเหลือสุทธิอีกประมาณ 50 ล้านบาท ซึ่งได้สะท้อนไว้ในประมาณการปี 53 แล้ว
สำหรับการเจรจาขอลดหนี้จากเจ้าหนี้ในบริษัทร่วมทุนดังกล่าว ในส่วน SYNTEC จะได้ประโยชน์ประมาณ 39 ล้านบาท เรายังไม่ใส่ไว้ในประมาณการ หากเกิดขึ้นจริงได้ก็ให้เป็นส่วนเพิ่ม(upside)ต่อไป ทางด้านการเพิ่มส่วนประหยัดภาษี(tax shield)นั้น ฝ่ายกฏหมายได้เร่งฟ้องลูกหนี้ในจำนวน 60-70 ล้านบาท
แนวโน้มกำไรสุทธิ 2Q53 จะมีการฟื้นตัวจาก y-o-y ที่เป็นขาดทุนสุทธิ 33 ล้านบาท แต่อาจจะอ่อนตัวจาก q-o-q ที่เป็นกำไรสุทธิ 42 ล้านบาท เพราะงานก่อสร้างบางโครงการ เช่น อมันตา ลุมพินี และ โรงแรมโนโวเทล แพล็ตตินัม มีความล่าช้า จากการชุมนุมของ นปช.ในช่วงที่ผ่านมา แต่ทางบริษัทได้ขอยืดอายุเวลาก่อสร้างออกไป
แม้ได้มีการปรับลดประมาณการลง แต่อัตราการเติบโตกำไรสุทธิปี 53 และ 54 เทียบกับ y-o-y ยังอยู่ในเกณฑ์ดีคือ 7% และ 12% ตามลำดับ ส่วนการประเมินมูลค่าหุ้นพบว่ายังถูก P/E และ P/BV ปี 53 เป็นเพียง 4.7 และ 0.6 เท่า ตามลำดับ ราคาพื้นฐานปรับเพิ่มขึ้นเป็น 1.17 บาท ซึ่งประเมินด้วย P/E ปี 53 ที่ 5.5 เท่า หรือเทียบเท่า P/BV ปี 53 เพียง 0.7 เท่า ราคาปิดมีส่วนเพิ่มเทียบกับราคาพื้นฐานได้อีก 17% ผนวกกับคาดการณ์อัตราผลตอบแทนเงินปันผลปี 53 ที่ 4.9%