นายศีลชัย เกียรติภาพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ปิโก (ไทยแลนด์) (PICO) เปิดเผยกับ "อินโฟเควสท์"ว่า บริษัทได้รับงานจากประเทศอินเดียในการจัดงาน"Common Wealth Game" ในเดือนตุลาคมนี้ มูลค่างานประมาณ 500-1,000 ล้านบาท ซึ่งช่วยเพิ่มรายได้จากงานต่างประเทศให้กับบริษัท สามารถชดเชยผลกระทบจากสถานการณ์ในประเทศที่ทำให้งานอีเวนท์ต่าง ๆ หดหายไปมาก
"การที่บริษัทได้มีการเตรียมพร้อมรองรับกับสิ่งที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปลายปี 52 จากภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ดีนัก บริษัทจึงหันไปให้ความสำคัญในรับงานต่างประเทศมากขึ้นเพื่อมาชดเชยงานในประเทศที่ลดลง ทั้งผ่านเครือข่ายและรับงานโดยตรงจึงสามารถลดความเสี่ยงที่เกิดขึ้นได้"นายศีลชัย กล่าว
นอกจากจะเน้นการรับงานต่างประเทศแล้ว บริษัทยังหันมารับงานอย่างธุรกิจดิจิตอล คอนเทนท์มากขึ้น เพราะเป็นธุรกิจที่สร้างผลกำไร และยังมีรายได้จากธุรกิจใหม่ คือ ธุรกิจด้านการสร้างสรรค์แหล่งการสื่อสารองค์ความรู้ต่อเนื่องในช่วง 2-3 ปี/โครงการ ซึ่งสอดคล้องกับวานนี้ได้มีการจัดตั้งบริษัทย่อยใหม่ คือ บริษัท เอฟซีจี จำกัด เพื่อต่อยอดรับงานผลิตรายการผ่านรายการเคเบิ้ลทีวี รายการทีวีผ่านดาวเทียม รายการทีวีผ่านอินเตอร์เน็ต เป็นต้น
นายศีลชัย กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทยังไม่สามารถประเมินการเติบโตรายได้ในปี 53 ได้ โดยขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในช่วงครึ่งปีหลังว่าจะมีการปรับตัวในทิศทางที่ดีได้หรือไม่หลังจากช่วงเดือน เม.ย-มิ.ย.ที่ผ่านมามีเหตุการณ์การชุมนุมทางการเมืองที่ส่งผลกระทบอย่างมาก ทำให้ลูกค้าชะลอและขอยกเลิกงานคิดเป็นมูลค่าประมาณ 20-30 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ในปีนี้บริษัทจะสามารถพลิกกลับมามีกำไรได้ จากปีก่อนที่ขาดทุนประมาณ 30 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทได้มีการปรับกลยุทธ์การดำเนินงานในการหันไปรับงานที่สร้างผลกำไรโดยตรง ประกอบกับ ให้ความสำคัญในการควบคุมค่าใช้จ่าย โดยปัจจุบันมีงานในมือ(backlog)ประมาณ 200 ล้านบาทที่จะทยอยรับรู้รายได้
"ปีนี้บริษัทจะให้ความสำคัญในด้านกำไรมากกว่าการเติบโตของรายได้ เพราะหากมีกำไรสูงก็จะส่งผลประโยชน์ต่อผู้ถือหุ้นด้วย ส่วนไตรมาสที่เหลือคงต้องดูสถานการณ์ว่าเป็นอย่างไร แต่ไตรมาส 2 ก็ดีเติบโตทั้งรายได้และกำไรเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะจากธุรกิจใหม่ อย่างเช่นสร้างสรรค์แหล่งการสื่อสารองค์ความรู้โดยเฉพาะด้านการศึกษาที่รับรู้รายได้เข้ามาและเราก็มีงานด้านนี้ต่อเนื่อง รวมทั้งรายได้จากงานมหกรรมยานยนต์"นายศีลชัย กล่าว