ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กยูโรพุ่งเทียบดอลล์ รับข่าวผลประมูลพันธบัตรสเปน-เบลเยียม

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday June 16, 2010 07:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้นกว่า 1% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (15 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตการณ์การคลังในยุโรป หลังจากมีข่าวว่ารัฐบาลสเปนและเบลเยียมระดมทุนได้จำนวนมากจากการประมูลพันธบัตร อย่างไรก็ตาม ค่าเงินยูโรถอยร่นลงจากระดับสูงสุดในระหว่างวันเพราะถูกกดดันจากรายงานดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนของเยอรมนีที่ร่วงลงอย่างหนัก

ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้น 1.05% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ 1.2345 ดอลลาร์ จากระดับของวันจันทร์ที่ 1.2217 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ดีดตัวขึ้น 0.53% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ที่ 1.4819 ดอลลาร์ จากระดับ 1.4741 ดอลลาร์

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 91.400 เยน จากระดับของวันจันทร์ที่ 91.530 เยน และร่วงลง 0.95% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 1.1313 ฟรังค์ จากระดับ 1.1422 ฟรังค์

ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 0.96% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ 0.8657 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันศุกร์ที่ 0.8575 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้น 0.71% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ 0.6989 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6940 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินยูโรทะยานขึ้นแข็งแกร่ง ขานรับข่าวรัฐบาลสเปนที่สามารถระดมทุนได้ถึง 5.2 พันล้านยูโรผ่านการประมูลพันธบัตรประเภท 12 และ 18 เดือน และรัฐบาลเบลเยียมระดมทุนผ่านการประมูลพันธบัตรได้ถึง 2.5 พันล้านยูโร ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้เกิดความเชื่อมั่นว่าสถานะทางการคลังของประเทศยุโรปจะแข็งแกร่งขึ้น

อย่างไรก็ตาม ช่วงบวกของยูโรถูกกดดันหลังจากสถาบันวิจัยเศรษฐกิจยุโรป (ZEW) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนเยอรมนีในเดือนมิ.ย.ทรุดลงสู่ระดับ 28.7 จุด จากระดับ 45.8 จุดในเดือนพ.ค. เพราะความกังวลที่ว่าวิกฤตหนี้สาธารณะในยุโรปจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกและการขยายตัวของเศรษฐกิจเยอรมนี

ผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) เปิดเผยว่า ประเทศสมาชิกอียูเตรียมยื่นเสนอแผนลงโทษประเทศที่ไม่เร่งสร้างสมดุลงบประมาณการใช้จ่าย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามที่จะทำให้ตลาดการเงินมั่นใจว่า นโยบายการคลังของประเทศสมาชิก 27 ประเทศของอียูจะกลับเข้าสู่แนวทางที่ยั่งยืน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดวิกฤตการณ์หนี้สินแบบกรีซขึ้นอีก โดยผู้นำอียูจะประชุมร่วมกันในวันพฤหัสบดีนี้

สำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษรายงานว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ปรับตัวลดลงเป็นครั้งแรกในรอบสามเดือน มาอยู่ที่ 3.4% ในเดือนพฤษภาคม จากระดับสูงสุดในรอบ 17 เดือนที่ 3.7% ในเดือนเมษายน ซึ่งการปรับตัวลดลงในครั้งนี้มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลงแตะ 3.5% แต่ยังสูงกว่าอัตราเงินเฟ้อเป้าหมายที่ระดับ 2% ของธนาคารกลางอังกฤษ

ส่วนดัชนี CPI พื้นฐานที่ไม่รวมราคาอาหารสดและพลังงาน ลดลงมาอยู่ที่ 2.9% จากระดับ 3.1% ในเดือนก่อนหน้านี้

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนพ.ค. ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนพ.ค. ข้อมูลการผลิตในภาคอุตสาหกรรมและอัตราการใช้กำลังการผลิตเดือนพ.ค. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ