ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (15 มิ.ย.) ซึ่งเป็นการปรับขึ้นติดต่อกัน 5 วันทำการ จากแรงซื้อที่ส่งเข้าหนุนหุ้นกลุ่มธนาคาร หลังจากรัฐบาลสเปนและเบลเยียมระดมทุนได้จำนวนมากจากการประมูลพันธบัตร นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากรายงานที่ว่าบริษัท บริติช บรอดคาสติ้ง (บีสกายบี) ซึ่งทำธุรกิจเพย์ทีวี ปฏิเสธข้อเสนอของบริษัทนิวส์ คอร์ป ที่ต้องการซื้อหุ้นที่เหลือในบีสกายบี ซึ่งข่าวดังกล่าวช่วยพยุงตลาดดีดตัวขึ้นและยังช่วยชดเชยการร่วงลงอย่างหนักของหุ้นบีพี
ดัชนี FTSE 100 ดีดขึ้น 15.69 จุด หรือ 0.3% ปิดที่ 5,217.82 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 5,149.13 - 5,242.08 จุด
หุ้นบีสกายบี พุ่งขึ้น 16.57% หลังจากบีสกายบีปฏิเสธข้อเสนอของนิวส์ คอร์ปที่ต้องการซื้อหุ้นที่เหลือในบีสกายบี มูลค่า 7.8 พันล้านปอนด์ (1.15 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ)
หุ้นกลุ่มธนาคารทะยานขึ้นเนื่องจากนักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับสถานะด้านการคลังของประเทศยุโรป หลังจากรัฐบาลสเปนสามารถระดมทุนได้ถึง 5.2 พันล้านยูโรผ่านการประมูลพันธบัตรประเภท 12 และ 18 เดือน และรัฐบาลเบลเยียมระดมทุนผ่านการประมูลพันธบัตรได้ถึง 2.5 พันล้านยูโร โดยหุ้นบาร์เคลย์ส ปิดบวก 1.0% หุ้นรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ ปิดพุ่ง 1.4% หุ้นลอยด์ส แบงกิง กรุ๊ป ปิดพุ่ง 2% และหุ้นสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ปิดบวก 2.4%
ส่วนหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ทะยานขึ้นตามราคาโลหะพื้นฐานในตลาดโลก รวมถึงราคาทองแดง หลังจากสหรัฐเปิดเผยผลผลิตภาคอุตสาหกรรรมที่ขยายตัวแข็งแกร่ง โดยหุ้นคาซัคมิสปิดบวก 0.1% หุ้นยูเรเชียนปิดพุ่ง 0.3% หุ้นเนเชอรัล รีซอร์สเซส ปิดบวก 0.8% หุ้นแองโกล อเมริกัน ปิดบวก 1% หุ้นริโอ ทินโต ปิดบวก 1.1% และหุ้นลอนมินปิดพุ่ง 1.2%
ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้นขานรับราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ทะยานขึ้นเหนือระดับ 76 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อคืนนี้ โดยหุ้นบีจี กรุ๊ป ปิดบวก 0.6 หุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ ปิดบวก 0.1% แต่หุ้นบีพีดิ่งลง 3.8% หลังจากฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของบีพี ลงสู่ระดับ "BBB" จากเดิมที่ "AA" ซึ่งถือเป็นการปรับลดอันดับเครดิตลงถึง 6 ขั้น อันเนื่องมาจากเหตุน้ำมันรั่วไหลในอ่าวเม็กซิโก
สำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษรายงานว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ปรับตัวลดลงเป็นครั้งแรกในรอบสามเดือน มาอยู่ที่ 3.4% ในเดือนพฤษภาคม จากระดับสูงสุดในรอบ 17 เดือนที่ 3.7% ในเดือนเมษายน ซึ่งการปรับตัวลดลงในครั้งนี้มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลงแตะ 3.5% แต่ยังสูงกว่าอัตราเงินเฟ้อเป้าหมายที่ระดับ 2% ของธนาคารกลางอังกฤษ