หุ้น SVI ปิดเทรดช่วงเช้าราคาพุ่งขึ้น 7.50% มาอยู่ที่ 2.58 บาท เพิ่มขึ้น 0.18 บาท มูลค่าซื้อขาย 153.21 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 2.44 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 2.64 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 2.44 บาท
ส่วนหุ้นลูก SVI-W2 อยู่ที่ 1.56 บาท เพิ่มขึ้น 0.18 บาท(+13.04%)มูลค่าซื้อขาย 102.34 ล้านบาท
น.ส.ศลยา ณ สงขลา ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย) กล่าวว่า ราคาหุ้นแม่-ลูก บมจ. เอสวีไอ(SVI)เช้านี้ปรับตัวสูงขึ้น ด้วยวอลุ่มเทรดที่เข้ามาอย่างหนาแน่น ทางฝ่ายวิจัยได้แนะนำ"ซื้อ"หุ้น SVI มาโดยตลอด จนราคาหุ้นปรับตัวขึ้นมาแล้วตอนนี้ก็ให้คำแนะนำเป็นทยอยสะสม
เนื่องภาพโดยรวมของ SVI อยู่ในเกณฑ์ที่ดี แนวโน้มกำไรปีนี้มีการเติบโตที่ดี จาก Demand ที่มีเข้ามาสูงขึ้น ตามการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมอิเล็คทรอนิกส์ โดย SVI ได้ลูกค้าใหม่เข้ามา 3 รายตั้งแต่ต้นปีแล้ว ส่วนลูกค้าเก่าก็มีการส่งออเดอร์มากขึ้น ซึ่ง Demand ที่เข้ามามากขึ้น ทำให้ SVI กำลังจะเดินเครื่องเพิ่มกำลังการผลิตในช่วงกลางไตรมาส 3/53
อย่างไรก็ดี SVI ยังมีปัญหาในเรื่องขาดแคลนวัตถุดิบ แต่ขณะนี้ปัญหาก็ลดน้อยลงเรื่อย ๆ แล้ว
พร้อมคาดการณ์กำไรปกติปีนี้ของ SVI ไว้ที่ 660 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว(2552)ที่มีกำไรปกติ 569 ล้านบาท
นอกจากนั้น เช้านี้ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)เปิดเผยว่า นายสุวรรณ วลัยเสถียร ได้ซื้อหุ้น SVI จำนวน 1.5 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 2.43 บาท หลังจากทยอยซื้อสะสมมาตั้งแต่ต้นเดือนที่ผ่านมา 2 ครั้ง รวมครั้งนี้เป็น 2.9 ล้านหุ้น
น.ส.ศลยา กล่าวต่อว่า การเข้าซื้อหุ้น SVI ของนายสุวรรณ คงไม่ได้เกี่ยวกับปัจจัยพื้นฐาน และนายสุวรรณก็เป็นกรรมการของ SVI อยู่ด้วย
อนึ่ง จากข้อมูลตลาดหลักทรัพย์ ระบุว่า นายสุวรรณ วลัยเสถียร ดำรงตำแหน่ง ประธานกรรมการ SVI