ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดบวก 4.69 จุด หลังบีพียอมชดเชยความเสียหายจากน้ำมันรั่ว

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday June 17, 2010 06:36 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (16 มิ.ย.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลการผลิตด้านอุตสาหกรรมเดือนพ.ค.ที่ออกมาดีเกินคาด และจากข่าวบริษัทบีพียอมตกลงจัดสรรเงินมูลค่า 2 หมื่นล้านดอลลาร์เข้าสู่กองทุนเพื่อชดเชยความเสียหายให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำมันรั่วไหลครั้งใหญ่ในอ่าวเม็กซิโก อย่างไรก็ตาม รายงานตัวเลขสร้างบ้านที่ลดลงเกินคาดในสหรัฐส่งผลให้ภาวะการซื้อขายในตลาดผันผวนตลอดวัน

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ขยับขึ้น 4.69 จุด หรือ 0.05% ปิดที่ 10,409.46 จุด ดัชนี S&P 500 ลดลง 0.62 จุด หรือ 0.06% ปิดที่ 1,114.61 จุด และดัชนี Nasdaq ขยับขึ้น 0.05 จุด หรือ 0.00% ปิดที่ 2,305.93 จุด

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 8.40 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในอัตราส่วน 3 ต่อ 2 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ราว 9.65 พันล้านหุ้น

บริษัทบีพีออกแถลงการณ์เมื่อวานนี้ว่า ทางบริษัทได้ยกเลิกการจ่ายเงินปันผลมูลค่ารวม 2.6 พันล้านดอลลาร์สำหรับงวดที่มีกำหนดจ่ายในวันที่ 21 มิ.ย. รวมทั้งไม่ได้ประกาศว่าจะมีการจ่ายเงินปันผลสำหรับไตรมาสที่ 2 และ 3 นอกจากนี้ บีพียังได้ประกาศจัดสรรเงินมูลค่า 2.0 หมื่นล้านดอลลาร์เข้าสู่กองทุนชดเชยความเสียหายจากเหตุการณ์น้ำมันรั่ว ภายหลังจากผู้บริหารของบีพีเสร็จสิ้นการประชุมร่วมกับประธานาธิบดีบารัค โอบามา ที่ทำเนียบขาว ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับทิศทางของบีพีสิ้นสุดลง และเป็นปัจจัยสำคัญที่หนุนตลาดโดยรวมดีดตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดของวัน

ถึงกระนั้นก็ตาม นักลงทุนบางกลุ่มยังกังวลว่าบีพีจะรับมือกับต้นทุนการแก้ปัญหาน้ำมันรั่วที่มีมูลค่ามหาศาลนี้ได้อย่างไร โดยนายโทนี่ เฮย์เวิร์ด ซีอีโอของบีพีเปิดเผยว่า ต้นทุนการแก้ปัญหาน้ำมันรั่วจนถึงขณะนี้พุ่งขึ้นเป็น 1.25 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งยังไม่รวมเงิน 360 ล้านดอลลาร์ที่ต้องจ่ายในโครงการสร้างสันทราย (sand berm) จำนวน 6 แห่ง เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำมันไหลเข้าสู่พื้นที่ชุ่มน้ำในรัฐหลุยเซียนา

ขณะที่บีพีพยายามสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนมาโดยตลอดว่า เงินสดหมุนเวียนของบริษัทมีความสมดุล นอกจากนี้ สินทรัพย์ของบีพียังคงมีมูลค่าสูง รวมถึงแหล่งสำรองน้ำมันดิบกว่า 18 ล้านบาร์เรล และ 6.3 หมื่นล้านบาร์เรลที่บีพีค้นพบในช่วงเวลาที่สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธ.ค.2552

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กผันผวนตลอดวัน หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ไม่สอดคล้องกัน โดยกระทรวงพาณิชย์เปิดเผยว่า ตัวเลขการสร้างบ้านและอพาร์ทเมนท์ในเดือนพ.ค.ร่วงลง 10% มาอยู่ที่ระดับ 593,000 ยูนิต ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ที่ 650,000 ยูนิต และตัวเลขการอนุญาตสร้างบ้านลดลง 5.9% สู่ระดับต่ำสุดในรอบ 1 ปี ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น แต่ในขณะเดียวกัน ทางการสหรัฐได้เปิดเผยข้อมูลการผลิตด้านอุตสาหกรรมเดือนพ.ค.ออกมาดีเกินคาด

หุ้นกลุ่มธุรกิจสร้างบ้านร่วงลงเนื่องจากนักลงทุนผิดหวังต่อรายงานตัวเลขสร้างบ้านในสหรัฐ โดยหุ้นทูล บราเธอร์ส ปิดร่วง 15 เซนต์ แตะที่ 18.78 ดอลลาร์ และหุ้นเคบี โฮม ปิดลบ 22 เซนต์ แตะที่ 12.93 ดอลลาร์

หุ้นเฟดเอ็กซ์ปิดร่วง 6% หลังจากบริษัทปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการในปีหน้า ขณะที่หุ้นบีพีปิดบวก 1.4%

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันพฤหัสบดี โดยกระทรวงแรงงานจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ รวมทั้งดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนพ.ค. และสำนักงานคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด จะเปิดเผยดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเดือนพ.ค. ส่วนวันศุกร์ไม่มีรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ