นายวีรศักดิ์ โฆสิตไพศาล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท.เคมิคอล(PTTCH)คาดว่าส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์(สปรด)ในช่วงครึ่งปีหลังจะอยู่ที่ประมาณ 500 เหรียญ/ตัน ต่ำกว่าครึ่งปีแรกที่อยู่สูงกว่า 500 เหรียญ/ตัน เนื่องจากในช่วงหลังจากนี้จะมีกำลังการผลิตใหม่ที่จะทยอยเข้ามาทั้งจากกลุ่มตะวันออกกลางและจีน ขณะที่ความต้องการของตลาดจะเติบโตช้ากว่า เพราะภาวะเศรษฐกิจโลกอยู่ในช่วงฟื้นตัว และยุโรปยังมีปัญหาเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าสเปรดจะไม่ลงไปถึง 400 เหรียญ/ตัน เพราะผู้ผลิตรายใหญ่ที่ใช้แนฟทาเป็นวัตถุดิบหลักมีต้นทุนสูง หากสเปรดต่ำกว่า 400 เหรียญ/ตัน อาจส่งผลกระทบถึงขั้นต้องปิดโรงงาน
"เราคิดว่าในไตรมาส 3 ไตรมาส 4 จะมีแรงกดดันให้สเปรดลงต่ำประมาณ 500 เหรียญฯ บวก-ลบ กำไรก็จะถูกกดดันกันทั้งอุตสาหกรรม สถานการณ์อย่างนี้จะอยู่ถึงปีหน้า อย่างไรก็ตาม เรายังคาดว่าสเปรดทั้งปีของบริษัทจะอยู่ที่ระดับ 500 เหรียญฯ และไม่เชื่อว่าจะลงไปต่ำกว่า 400 เหรียญฯ เพราะถ้าต่ำกว่านั้นก็จะมีคนถอยแน่นอน"นายวีระศักดิ์ กล่าว
ทั้งนี้ ราคาเม็ดพลาสติก HDPE ในช่วงไตรมาส 3/53 น่าจะทรงตัวอยู่ในระดับ 1,100-1,200 เหรียญ/ตัน ซึ่งเป็นไปตามทิศทางราคาน้ำมัน ใกล้เคียงกับไตรมาส 2/53 ซึ่งลกลงจากไตรมาส 1/53 ที่อยู่ในระดับ 1,250 เหรียญ/ตัน
ส่วนการผลิตเม็ดพลาสติก LLPE ขณะนี้อยู่ระหว่างการทดสอบเครื่องจักร และคาดว่าภายในเดือน ก.ค.53 จะสามารถผลิตในเชิงพาณิชย์ได้ ล่าช้ากว่าแผนเล็กนอยที่เคยคาดว่าจะเดินเครื่องภายในไตรมาส 2/53