นายโกวิท รุ่งวัฒนโสภณ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ราชธานี ลิสซิ่ง(THANI)เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า ขณะนี้กำลังรอการประชุมร่วมกับทางธนาคารธนชาต(TBANK)เพื่อรับฟังนโยบายและทิศทางการดำเนินงาน ภายหลังจากที่บมจ.ทุนธนชาต(TCAP)ไม่ประสบความสำเร็จในการทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์หุ้น THANI
แต่ในแง่ของการทำธุรกิจระหว่างบริษัทและธนาคารนครหลวงไทย(SCIB)ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ยังคงดำเนินไปเช่นเดิม เพราะ SCIB ยังไม่ได้หายไปไหน และปัจจุบันบริษัทฯยังคงปล่อยสินเชื่อตามปกติ
"ที่จริงเขาไม่ตั้งใจจะซื้อเราหรอก แล้วเราก็ไม่รู้ว่านโยบายเขาต้องการยังไง ตอนนี้ได้แต่รอประชุมกับทางธนาคารธนชาตว่านโยบายของเขาเป็นยังไง หลังจากที่ทำเทนเดอร์ฯไม่สำเร็จ ซึ่งจากนี้ไป 1 ปี ก็คงอยู่ในช่วงของการรอ เพราะทางธนชาตจะทำเทนเดอร์ฯใหม่ไม่ได้"นายโกวิท กล่าว
อนึ่ง เมื่อ 10 มิ.ย.53 ทาง TCAP ผู้ทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของบมจ.ราชธานีลิสซิ่ง (THANI) รายงานผลการซื้อหลังสิ้นสุดการทำเทนเดอร์ฯ ปรากฏว่า TCAP รับซื้อหุ้น THANI ไว้ได้แค่ 215,000 หุ้น หรือคิดเป็น 0.03% ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของกิจการ ณ วันที่ 31 มี.ค.2553 เท่ากับ 822,593,906 หุ้น
ดังนั้น ทาง SCIB คงถือหุ้น THANI จำนวน 397,500,000 หุ้นหรือคิดเป็น 48.32%
อย่างไรก็ตาม วานนี้หนังสือพิมพ์รายงานว่าผู้บริหาร TBANK ระบุ TCAP ยอมรับเทนเดอร์ออฟเฟอร์ THANI ล่มเหตุให้ราคาต่ำไป เตรียมถกอนาคต THANI อีกรอบก่อนตัดสินใจว่าจะซื้อหรือขายทิ้ง แต่มองซื้อ THANI ได้หรือไม่ได้ก็ไม่สำคัญ
*ปีนี้ตั้งเป้ากำไรไว้ 120 ลบ.,เป้าปล่อยสินเชื่อ 6 พันลบ.
กรรมการผู้จัดการ THANI กล่าวว่า บริษัทฯตั้งเป้าผลกำไรในปีนี้ไว้ที่ 120 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% จากปี 52 ที่มีผลกำไรประมาณ 100 ล้านบาท โดยมีเป้าหมายการปล่อยสินเชื่อที่ 6,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่มีการปล่อยสินเชื่อไป 4,000 ล้านบาท โดยปัจจุบันบริษัทฯยังคงเน้นการปล่อยสินเชื่อรถยนต์มือสองในสัดส่วน 80% และสินเชื่อรถใหม่ป้ายแดงสัดส่วน 20% ซึ่งรถป้ายแดงนี้จะเป็นสาขาของบริษัทฯเท่านั้นที่ปล่อยสินเชื่อรถป้ายแดง
"ในช่วงไตรมาส 2/53 บริษัทฯยังคงสามารถปล่อยสินเชื่อได้ดี เป็นไปตามเป้าหมายของบริษัทฯที่ต้องการจะปล่อยสินเชื่อเดือนละ 500 ล้านบาท ซึ่งก็มีเพียงเดือนพฤษภาคมที่มีเหตุการณ์ชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ทำให้การปล่อยสินเชื่อด้อย ๆ ไปหน่อย"กรรมการผู้จัดการ THANI กล่าว
นายโกวิท กล่าวต่อว่า อัตราดอกเบี้ยการปล่อยสินเชื่อของบริษัทฯ จะคิดการปล่อยสินเชื่อสำหรับรถยนต์มือสองในอัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น 3.75% ส่วนสินเชื่อที่ปล่อยให้กับรถยนต์ป้ายแดงจะคิดอัตราดอกเบี้ย 3.20% ซึ่งขณะนี้บริษัทฯมีวงเงินมากเพียงพอที่จะสามารถปล่อยสินเชื่อให้กับลูกค้าได้ถึงปีหน้า
*คาด Q2/53 รับผลกระทบจากเหตุการณ์ชุมนุมเสื้อแดง
นายโกวิท กล่าวต่อว่า ผลประกอบการงวดไตรมาส 2/53 ยังมองไม่ออกมาว่าจะออกมาเป็นอย่างไร เนื่องจากต้องรอดูว่าเหตุการณ์ชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงเมื่อช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาจะส่งผลกระทบต่อตัวเลข NPL แค่ไหน จากปัจจุบันที่บริษัทฯมีตัวเลข NPL อยู่กว่า 2%
"ผลประกอบการของบริษัทฯในไตรมาส 1/53 ออกมาดีครับ ส่วนไตรมาส 2/53 จะออกมาเป็นยังไงยังไม่รู้เลย ต้องรอดูว่าเหตุการณ์ชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงจะส่งผลกระทบมากแค่ไหน จะกระทบ NPL ไหม ปัจจุบันมี NPL อยู่ประมาณ 2% กว่า ซึ่งดูแล้วก็ไม่ค่อยน่าจะมีผลกระทบกับเราเท่าไร แต่มันกระทบกับพนักงานที่ทำงานตามโรงแรม ตามต่างจังหวัด พวกที่มีรายได้ประจำตามโรงงาน ค้าขายไม่ได้ ซึ่งส่วนเราเป็นการรับผลกระทบทางอ้อม ก็จะมากระทบการปล่อยสินเชื่อ อย่างพนักงานโรงแรมมีผลกระทบแล้ว"นายโกวิท กล่าว