นายปิยะสวัสดิ์ อัมระนันทน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ. การบินไทย (THAI) กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทอนุมัติให้บริษัทฯ กู้เงินจากธนาคารไทยพาณิชย์(SCB)จำนวน 8,000 ล้านบาท ระยะเวลา 7 ปี อัตราดอกเบี้ยลอยตัว เพื่อนำไปใช้คืนวงเงินกู้เดิมบางส่วนและใช้ในการลงทุนจัดหาเครื่องบิน
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังมีวงเงินการออกหุ้นกู้จำนวน 1.1 หมื่นล้านบาทที่ได้ขออนุมัติผู้ถือหุ้นไว้แล้ว ซึ่งจะพิจารณาความเหมาะสมอีกครั้งว่าจะออกหุ้นกู้หรือกู้เงินจากสถาบันการเงิน โดยต้องพิจารณาอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้ การดำเนินการนน่าจะทำได้ภายในปีนี้ โดยหากเลือกการออกหุ้นกู้จะอายุหุ้นกู้อย่างน้อย 7 ปี
ทั้งนี้ ตามแผนการระดมเงินทุนของการบินไทยจะมีการดำเนินการทั้งการออกหุ้นกู้ เงินกู้ หุ้นเพิ่มทุน จำนวนประมาณ 5 หมื่นล้านบาทในช่วง 5 ปีนี้ เพื่อใช้ในการลงทุนจัดหาเครื่องบินและเสริมสร้างฐานะทางการเงินให้แข็งแกร่ง
นอกจากนั้น ที่ประชุมคณะกรรมการฯ ในวันนี้ยังมีมติเห็นชอบแผนจัดหาเครื่องบินระหว่างปี 53-57 โดยได้คัดเลือกเครื่องบินแอร์บัส เอ 330-300 จำนวน 7 ลำ เป็นเครื่องพิสัยกลาง วงเงินที่เข้าซื้อต่ำกว่าวงเงินที่คณะรัฐมนตรีเคยอนุมัติไว้ที่ 3.1 หมื่นล้านบาท ส่วนเครื่องบินพิสัยไกลได้คัดเลือกเครื่องบินโบอิ้ง 777-300 ER จำนวน 8 ลำ ทั้งนี้ เป็นการเช่า 15 ปี รายละเอียดการเช่าจะทราบผลภายใน 30 วัน
สำหรับเครื่องบินแอร์บัส เอ 330 — 300 จะรับมอบในปี 54 จำนวน 2 ลำ ปี 55 จำนวน 3 ลำและปี56 จำนวน 2ลำ ส่วนเครื่องบิน โบอิ้ง 777-300 ER จะเริ่มรับมอบในปี 2555จำนวน 4 ลำ และในปี 57 จำนวน 4 ลำ
"ราคาที่ซื้อเครื่องบินแอร์บัสเป็นราคาที่ต่ำมากจนทุกคนสบายใจ เพราะราคาต่ำกว่า ครม.อนุมัติมาก"นายปิยสวัสดิ์ กล่าว
ส่วนการจัดหาเครื่องยนต์และอะไหล่สำหรับเครื่องบินใหม่ที่ครม.อนุมัติวงเงินไว้ 922 ล้านบาท ซึ่งระยะต่อไปบริษัทจะดำเนินการจัดหาเครื่องยนต์และการติดตั้งที่นั่งในเครื่องบินและสิ่งอำนวยความสะดวกในเครื่องบินแทนบริษัท Koito จำกัด ที่ไม่สามารถส่งมอบเก้าอี้ให้บริษัทฯ ได้ในขณะนี้
จากปัญหาดังกล่าว บริษัทฯ จึงจำเป็นต้องจัดหา Seat Supplier รายอื่นคู่ขนานไปกับการแก้ไขปัญหาของ Koito โดยได้แต่งตั้งคณะกรรมการจัดหาฯ เพื่อเร่งการจัดหาเก้าอี้รายใหม่ โดยทางบริษัท Zim FlugsitZ GmbH ผ่านการประเมินด้านเทคนิคตามที่เกณฑ์ที่บริษัทฯ กำหนด และผลิตภัณฑ์ของบริษัท Zim FlugsitZ GmbH ได้รับการรับรองจากหน่วยงานต่างๆ ซึ่งสร้างความมั่นใจว่าจะสามารถส่งมอบเก้าอี้ให้กับบริษัทฯ ได้ตามเวลาที่กำหนด อีกทั้งรูปแบบของผลิตภัณฑ์มีความใกล้เคียงกับ TOR ของบริษัทฯ มากที่สุด และมีคุณภาพ
ดังนั้น เมื่อเปรียบเทียบข้อมูลรายละเอียดในทุกๆ ด้านแล้ว จึงมีความเห็นให้คัดเลือกบริษัท Zim FlugsitZ GmbH จากประเทศเยอรมัน ให้เป็นผู้ทำการผลิตเก้าอี้ในชั้นประหยัดภายในเครื่องบินของบริษัทฯ โดยมีข้อเสนอว่าจะดำเนินการคู่ขนานไปกับบริษัท Koito จนถึงวันที่ 20 กันยายน 2553 หากบริษัท Koitio ไม่สามารถส่งมอบเก้าอี้ได้ภายในเวลาที่กำหนด บริษัท Zim FlugsitZ GmbH จะดำเนินการส่งมอบเก้าอี้ให้บริษัทฯ ได้ภายใน 8 เดือน นับจากวันที่ได้รับ Letter of Intent โดยมีเงื่อนไขให้ได้รับเป็น Seat Supplier สำหรับโครงการติดตั้งเก้าอี้ชั้นประหยัดของฝูงบินโบอิ้ง 747 - 400 ลำที่ 7 — 12 ด้วย
นายปิยสวัสดิ กล่าวว่า ในส่วนของผลการดำเนินงานเดือนพ.ค.53 มีมีปริมาณการผลิตผู้โดยสาร (Available Seat per Kilometer /ASK) สูงกว่าเดือนเดียวกันของปีก่อน 3.63% และสูงกว่าเดือน เม.ย.53 อยู่ 4.91% ส่วนปริมาณการขนส่งผู้โดยสาร (Revenue per Kilometer / RPK) ต่ำกว่าเดือนเดียวกันของปีก่อน 5.61% และต่ำกว่าเดือน เม.ย.53 ที่ 17.54%
อัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสาร(Cabin Factor) เฉลี่ย 56.67% ต่ำกว่าเดือนเดียวกันของปีก่อน 8.92% ต่ำกว่าเดือน เม.ย.53 อยู่ 21.40% เนื่องจากเป็นช่วงนอกฤดูการท่องเที่ยวและผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมืองที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามหลังจากสถานการณ์ดีขึ้น ปริมาณการขนส่งผู้โดยสาร (RPK) ขยับตัวดีขึ้น
อนึ่ง ผลการดำเนินงานในช่วง ม.ค.-พ.ค.53 บริษัทฯ มีปริมาณการผลิตผู้โดยสาร (ASK) สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 6.60 % ปริมาณการขนส่งผู้โดยสาร (RPK) สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 9.67% มีอัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) เฉลี่ย 74.48% สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 2.88%
ด้านการขนส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ ในเดือน พ.ค.53 มีปริมาณการขนส่งสินค้ารวม 253 ล้านตัน-กม. เพิ่มขึ้น 61% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แสดงให้เห็นว่าการส่งออกของไทยยังมีแนวโน้มที่ดี และผลการดำเนินงานในช่วงเดือนม.ค.-2 สัปดาห์แรกของเดือนมิ.ย.53 เพิ่มขึ้น 55% มีอัตราการบรรทุกสินค้า (Load Factor) ในเดือน พ.ค.53 เฉลี่ย 67.8%