TCC คาดรายได้ Q2/53 ใกล้เคียง Q1/53 แต่กำไรโตกว่าตามทิศทางราคาถ่านหิน

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday June 21, 2010 11:04 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

แหล่งข่าวจาก บมจ.ไทย แคปปิตอล คอร์ปอเรชั่น(TCC)เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า คาดรายได้ในไตรมาส 2/53 น่าจะใกล้เคียงไตรมาส 1/53 ที่อยู่ 92 ล้านบาท เนื่องจากผลกระทบจากการชุมนุมที่มีต่อความมั่นใจของภาพรวม ทำให้ลูกค้าชะลอการผลิตและส่งผลถึงการสั่งซื้อพลังงานไปเป็นเชื้อเพลิง แต่ก็ยังมีเวลาในเดือนสุดท้ายหลังการชุมนุมยุติที่จะเร่งสปีดสร้างรายได้ เพราะขณะนี้ลูกค้าก็กลับมาอัดออร์เดอร์มากขึ้น

"ยังมีเวลาอีก 1 เดือนที่จะเร่งสปีด เพราะช่วงชุมนุมที่ผู้ผลิตชะลอสั่งซื้อไปพอทุกอย่างกลับเข้าสู่ภาวะปกติก็มาอัดออร์เดอร์ในช่วงเดือนนี้ ซึ่งลูกค้าจะไม่สั่งออร์เดอร์ล่วงหน้ามาก เพราะเป็น inventory cost ซึ่งส่วนใหญ่เราจะขาย trading มากกว่า"แหล่งข่าว กล่าว

แต่หากเทียบกับไตรมาส 2/52 จะออกมาดีกว่าแน่นอน เพราะครึ่งแรกของปี 52 จนถึงไตรมาส 3 ตอนปลาย ยังแทบจะไม่มียอดขายถ่านหิน เพราะเพิ่งสร้างคลังเก็บถ่านหินแล้วเสร็จ และเริ่มขายถ่านหินเต็มที่ช่วงไตรมาส 4/52

อย่างไรก็ตาม ในแง่ของกำไรไตรมาส 2/53 น่าจะมากกว่าไตรมาส 1/53 ที่มีกำไรสุทธิ 4.6 ล้านบาท เนื่องจากราคาถ่านหินในตลาดโลกปรับขึ้นเรื่อยๆ จากไตรมาสแรกของปีนี้ราคาถ่านหิน BJI เดือน ม.ค.53 เฉลี่ยอยู่ที่ 96 ดอลลาร์สหรัฐ/ตัน สูงขึ้นจาก ธ.ค.52 ที่อยู่ในระดับ 80 ดอลลาร์สหรัฐ/ตัน พอมาเดือน พ.ค.53 ราคาขยับขึ้นไปอยู่ที่ 97 ดอลลาร์สหรัฐ/ตัน จากนั้นก็ปรับขึ้นมาตลอด และเชื่อว่าแนวโน้มในปีนี้ราคาถ่านหินตลาดโลกก็น่าจะยืนเหนือ 100 ดอลลาร์สหรัฐ/ตันได้

"ราคาถ่านที่ปรับขึ้นเรื่อยๆ ก็น่าจะส่งผลดีต่อการขายของเรา ถึงแม้ว่าราคาขายในประเทศจะปรับขึ้นได้ไม่ทันทีเหมือนราคาตลาดโลกก็ตาม แต่ก็ถือว่าราคาขายเฉลี่ยในไตรมาส 2/53 ก็ดีกว่าไตรมาส 1 เล็กน้อย ราคาถ่านหินในประเทศแนวโน้มดีขึ้นเรื่อยๆ เพราะราคาถ่านหินในตลาดโลกปรับขึ้นมาระยะหนึ่งแล้ว แต่บ้านเรามีปัญหาไม่เหมือนใคร"แหล่งข่าว กล่าว

แหล่งข่าว กล่าวอีกว่า ทั้งปี 53 บริษัทตั้งเป้าปริมาณขายถ่านหินในปีนี้ที่ 2 แสนตัน โดยสูงกว่าปี 52 ที่เพิ่งเริ่มขายถ่านหินเต็มที่ในไตรมาส 4/52 ซึ่งการประเมินเป้าหมายในปีนี้มาจากคาดการณ์ว่าความต้องการถ่านหินในตลาดยังมีค่อนข้างมาก และของธุรกิจของบริษัทยังจะขยายตัวต่อไปได้อีกมาก เพราะ Business cycle ของบริษัทเพิ่งเริ่มต้น ยังมีช่องทางที่จะไต่ระดับขึ้นได้อีกมาก ประกอบกับ ราคาถ่านหินเป็นช่วงขาขึ้น

สำหรับลูกค้าหลักขณะนี้เป็นอุตสาหกรรมอาหาร สิ่งทอ และ กระดาษ ที่สินค้ามีความต้องการสูงขึ้นตามเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว เพราะพลังงานถ่านหินเป็นพลังงานทางเลือกที่ยังใช้ได้อยู่

บริษัทยังคงคาดว่าในปีนี้จะพลิกเป็นกำไรได้ จากปีก่อนที่ขาดทุน 59 ล้านบาท เนื่องจากไตรมาส 1/53 มีกำไรแล้ว 4 กว่าล้านบาท แต่เนื่องจากยังมีขาดทุนสะสมเหลืออยู่อีก 10 กว่าล้านบาท หลังจากที่ล้างไปแล้ว 300 กว่าล้านบาท หากล้างขาดทุนสะสมหมดก็คงจะพิจารณาจ่ายปันผลได้ เชื่อว่าปีนี้น่าจะล้างขาดทุนสะสมได้ทั้งหมด หากไม่มีอะไรผิดพลาด

การลงทุนใหม่ปีนี้ไม่มีหลังจากที่ลงทุนสร้างโรงงานไปเมื่อปีที่แล้วใช้เงินมากแล้ว

"ปีนี้ลุ้นกำไรกัน ปัจจัยเสี่ยงในปีนี้ก็จะเป็นเรื่องมหภาค การแข่งขันกันในกลุ่มถ่านหินกันเอง แต่บริษัทเราขอเป็นเงา ค่อยๆ โตอยู่ในหลืบไปเรื่อยๆ และคงจะหาลูกค้าเพิ่มเพื่อขยายฐานไปเรื่อยๆเช่นกัน" แหล่งข่าว กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ