โบรกฯหนุน"ซื้อ"TISCO สินเชื่อ-กำไร Q2/53 เด่น,บุ๊ครายได้ FAขายหุ้นSCIB

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday June 21, 2010 14:34 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

6 โบรกเกอร์แนะ"ซื้อ"หุ้น บมจ.ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป(TISCO)มองแนวโน้มการทำกำไรไตรมาส 2/53 สูงขึ้นมาที่600-700 ล้านบาท เติบโต 40% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเฉพาะจากการปล่อยสินเชื่อที่ขยายตัวได้ดีต่อเนื่อง การมีรายได้พิเศษจากการขายสินทรัพย์รอการขาย(NPA)และการเป็นที่ปรึกษาของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาสถาบันการเงินในการขายหุ้นธนาคารหลวงไทย(SCIB)ให้กับธนาคารธนชาตในเครือบมจ.ทุนธนชาต(TCAP))

นอกจากนั้น ยังคาดการปล่อยสินเชื่อของ TISCO ใปนี 53 จะเติบโตทะลุ 10% ที่เป็นเป้าหมายที่ตั้งไว้ ซึ่งมากกว่าการปล่อยสินเชื่อในระบบธนาคารพาณิชย์ ขณะที่กำไรสุทธิทั้งปี ประเมินไว้ที่ 2,400-2,800 ล้านบาท

ประกอบกับหุ้น TISCO ได้รับการเลือกเข้าในกลุ่มหุ้นที่ใช้ในการคำนวณดัชนี SET50 ในช่วง 6 เดือนหลังของปี 53 ที่จะเริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.-31 ธ.ค.53 ยิ่งเพิ่มความน่าสนใจการลงทุนของกองทุนในและต่างประเทศ

          โบรกเกอร์            คำแนะนำ        ราคาเป้าหมาย(บาท)
          บล.กรุงศรีฯ             ซื้อ                31.50
          บล.ฟิลลิป               ซื้อ                32.25
          บล.โกลเบล็ก            ซื้อ                33.40
          บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส      ซื้อ                32.00
          บล.บัวหลวง             ซื้อ                28.00
          บล.เอเซีย พลัส          ซื้อ                32.37

นายธนัท รังษีธนานนท์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.กรุงศรีอยุธยา กล่าวว่า การทำกำไรของ TISCO ในไตรมาส 2/53 น่าจะออกมาสูงต่อเนื่อง เนื่องจากแนวโน้มการปล่อยสินเชื่อยังขยายตัวได้ดี โดยในเดือน เม.ย.-พ.ค.53 สินเชื่อขยายตัวดีมาก แทบไม่ได้รับผลกระทบจากการเมือง และ มิ.ย.53 คาดว่าสินเชื่อยังขยายตัวได้ดีเช่นกัน

ดังนั้น คาดว่าไตรมาส 2/53 สินเชื่อจะขยายตัว 6% เมื่อเทียบไตรมาสก่อนที่ขยายตัว 4% ส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPL)ยังอยู่ระดับต่ำแค่ 2.1% ซึ่งเป็นระดับที่บริหารจัดการได้

นอกจากนี้ กลุ่ม TISCO ยังมีรายได้พิเศษจากการขาย NPA และการที่ บล.ทิสโก้ เข้าเป็นที่ปรึกษาทางการเงินให้กองทุนฟื้นฟูฯ ขายหุ้น SCIB ให้กับธนาคารธนชาต ประกอบกับ การดำเนินงานของกลุ่มที่มี NIM สูงสุดในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ดังนั้น จึงคาดว่าในไตรมาส 2/53 TISCO จะมีกำไรสุทธิประมาณ 600-700 ล้านบาท เติบโตถึง 40% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน

และการที่ TISCO จะได้รับเลือกกลับเป็นหุ้นในกลุ่ม SET50 เชื่อว่าจะเป็นผลดีในระยะยาว และทำให้หุ้นเป็นที่สนใจของกองทุนในและต่างประเทศมากขึ้น เชื่อว่านักลงทุนจะกลับมาซื้อหุ้น TISCO มากขึ้น

“เชื่อว่าไตรมาส 2/53 จะเป็นช่วงที่โดดเด่นของทิสโก้ในปีนี้ เนื่องจากสินเชื่อที่ขยายตัวได้ต่อเนื่อง จากตัวเลขยอดขายรถที่เติบโตได้ดีแล้ว ยังมีรายได้พิเศษอีก ส่วนไตรมาสถัดไป แม้จะไม่มีรายได้พิเศษ แต่เชื่อว่าการปล่อยสินเชื่อและการทำกำไรของบริษัทจะยังทำได้ดีตามปกติ"นายธนัท กล่าว

ขณะที่ทั้งปี 53 คาดว่า TISCO จะมีกำไรสุทธิประมาณ 2,560 ล้านบาทคิดเป็นเติบโต 29% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นรายได้จากปันผลและดอกเบี้ยประมาณ 7,000 ล้านบาท หรือ 18% ขณะที่สินเชื่อทั้งปี คาดว่าจะขยายตัว 12% ดีกว่าระบบธนาคารพาณิชย์ที่คาดว่าสินเชื่อขยายตัว 5%

นางสาวศศิกร เจริญสุวรรณ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า การปล่อยสินเชื่อของ TISCO ในไตรมาส 2/53 ยังโตต่อเนื่อง ซึ่งยังเป็นสินเชื่อเช่าซื้อเป็นหลัก โดยคาดว่าจะขยายตัวประมาณ 5% จากไตรมาส 1/53 ที่เติบโตประมาณ 4% ขณะที่ยอดปล่อยสินเชื่อ 5 เดือน ขยายตัวแล้ว 8% ดังนั้น ทั้งปี คาดว่าการปล่อยสินเชื่อจะทะลุเป้าหมายที่กลุ่มทิสโก้ตั้งไว้ที่ 10% อย่างแน่นอน

ในไตรมาส 2/53 รายได้ของบริษัทน่าจะเติบโตได้ดี ทั้งจากการปล่อยสินเชื่อที่ขยายตัวได้ต่อเนื่องแล้ว บริษัทยังมีรายได้พิเศษจากการที่เป็นที่ปรึกษาทางการเงินการขายหุ้นธนาคารนครหลวงไทยที่คาดว่าจะมีการบันทึกรายได้เป็นหลักร้อยล้านบาท เช่นเดียวกับการขาย NPA ที่มีการบันทึกสำรองเต็ม 100% ไว้แล้ว จะมีการ reverse กลับมาเป็นรายได้หลักร้อยล้านบาทเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ในปี 53 คาดว่า บริษัทจะมีกำไรสุทธิอย่างน้อย 2,400 ล้านบาท

“คาดว่าไตรมาส 2 กำไรของ TISCO น่าจะเติบโตได้ถึง 40%เพราะมีรายได้พิเศษเข้ามาด้วย ส่วนจะเป็นกำไรถึง 700 ล้านบาทหรือไม่นั้น จะมีการทบทวนอีกครั้ง แต่มองว่าไตรมาส นี้น่าจะเป็นอีกไตรมาสที่บริษัททำได้ดีต่อเนื่อง...สินเชื่อทั้งปีน่าจะเกิน 10%แล้ว เพราะปีที่แล้วที่มีการซื้อพอร์ตมาสด้าและฟอร์ดเข้ามา มียอดจองทั้งงานมอเตอร์โชว์ มอเตอร์เอ็กโป และยังมีการเปิดตัวมาสด้า 2 อีกในปีนี้ ซึ่งยังมีออร์เดอร์ต่อเนื่อง" นางสาว ศศิกร กล่าว

บล.โกลเบล็ก ออกบทวิเคราะห์ว่า จากการฟื้นตัวของตลาดรถยนต์ส่งผลให้ตลาดสินเชื่อเช่าซื้อเติบโตตามไปด้วยและเป็นผลดีกับ TISCO ซึ่งมีฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นในปีนี้จากการเป็นพันธมิตรกับค่ายรถยนต์ในการซื้อพอร์ทลูกค้าในปีที่ผ่านมา

คาดว่า ครึ่งแรกปี 53 มีแนวโน้มเติบโตดี ซึ่งเป็นผลดีจากการเป็นพันธมิตรกับผู้ผลิตรถยนต์ค่ายฟอร์ด มาสด้า และเชฟโรเลต ทำให้มีฐานลูกค้ามากขึ้น ประกอบกับ การฟื้นตัวของตลาดรถยนต์โดยในช่วง 4 เดือนแรกยอดขายรถยนต์ในประเทศเพิ่มขึ้นถึง 52% จากปีก่อน คาดว่าอัตราการขยายตัวของสินเชื่อและรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการส่งผลให้ประมาณการกำไรสุทธิปี 53 ของ TISCO อยู่ที่ 2,824 ล้านบาท ซึ่งเติบโตถึง 42% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน

นอกจากนี้ธุรกิจอื่นของ TISCO ทั้งธุรกิจบริหารกองทุนรวมและธุรกิจนายหน้าค้าหลักทรัพย์ เติบโตตามภาวะตลาด ประกอบกับ TISCO มีสัดส่วนสินเชื่อเช่าซื้อคิดเป็น 70% ของสินเชื่อรวม ทำให้คาดว่าการเติบโตของสินเชื่อรวมสำหรับปี 53 อยู่ที่ 12% และการเติบโตของรายได้ค่าธรรมเนียม 50%

นอกจากนี้คุณภาพของสินทรัพย์ปรับดีขึ้นเป็นลำดับ สิ้นไตรมาส 1/53 มีสัดส่วน Gross NPL ต่อสินเชื่อรวมลดเหลือ 2.2% จาก 2.5% ณ ปลายปี 52 ซึ่งต่ำที่สุดในตลาดสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ NIM ที่ทรงตัวในระดับสูง ขณะที่สัดส่วน NPL ต่อสินเชื่อรวมต่ำที่สุด ในกลุ่ม และ เมื่อพิจารณาประกอบกับอัตราผลตอบแทนเงินปันผลในระดับที่น่าพอใจราว 6%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ