ตลาดหลักทรัพย์ไทยภาคบ่ายเดินหน้าบวกต่อไปเป็น 2% ภายใต้ปัจจัยบวกสำคัญคือแนวโน้มการแข็งค่าของเงินหยวนภายหลังทางการจีนประกาศเพิ่มความยืดหยุ่นต่อค่าเงิน ซึ่งทำให้ตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียดีดตัวตอบรับในทางบวก ได้แก่ ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดบวก 625.47 จุด เป็นต้น
เมื่อเวลา 15.20 น.ดัชนี SET มาอยู่ที่ 807.69 จุด เพิ่มขึ้น 15.84 จุด (+2.00%)
ล่าสุดเมื่อ 15.40 น.ดัชนี SET อยู่ที่ 805.98 จุด เพิ่มขึ้น 14.13 จุด(+1.78%)
นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.คันทรี่ กรุ๊ป กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงบ่ายนี้ปรับตัวขึ้นได้ถึง 2% เป็นไปตามตลาดหุ้นทั่วโลกที่ปรับตัวขึ้นมาตอบรับเรื่องที่จีนให้ความยืดหยุ่นต่อนโยบายค่าเงินหยวน ซึ่งทำให้เงินหยวนแข็งค่าขึ้น และจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของสหรัฐฯที่ทำให้ตัวเลขการขาดดุลจะน้อยลง
"4 เดือนแรกของปีนี้(ม.ค.-เม.ย.53)สหรัฐฯมีตัวเลขขาดดุลการค้ากับจีน 71,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วน 38% ของตัวเลขขาดดุลทั้งหมดของสหรัฐฯ และสหรัฐฯก็มีการนำเข้าสินค้าจากจีนใน 4 เดือนแรกปีนี้คิดเป็น 17% ของการนำเข้าสินค้าทั้งหมดของสหรัฐฯ ดังนั้น เมื่อเงินหยวนแข็งค่าขึ้นก็จะทำให้ตัวเลขขาดดุลของสหรัฐฯน้อยลง ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯก็อ่อนค่าลง ความกังวลก็หายไป และราคาสินค้าโภคภัณฑ์ก็จะปรับตัวสูงขึ้น"นายมงคล กล่าว
นายมงคล กล่าวต่อว่า นอกจากนี้เมื่อเงินหยวนแข็งค่าขึ้น ราคาสินค้าของจีนก็จะแพงขึ้น ดังนั้น จึงเป็นโอกาสของประเทศส่งออกอื่น ๆ ที่จะส่งสินค้าไปจำหน่ายในจีนได้ดีขึ้น
จากเหตุผลดังกล่าวนี้ทำให้ตลาดหุ้นต่างปรับตัวดีขึ้นกันอย่างทั่วหน้า แม้แต่ตลาดหุ้นในแถบยุโรปที่ยังคงมีประเด็นกังวลเกี่ยวกับวิกฤตในยูโรโซนอยู่ ในช่วงบ่ายนี้เปิดตลาดฯมาต่างก็ปรับตัวขึ้นกันหมด
พร้อมให้แนวรับ 793 จุด แนวต้าน 820 จุด