นายเผดิมภพ สงเคราะห์ กรรมการผู้จัดการ บล.กสิกรไทย กล่าวว่า นโยบายของทางการจีนที่จะปล่อยให้เงินหยวนแข็งค่าส่งผลดีต่อตลาดหุ้นไทยและเอเชีย โดยในช่วงที่เงินหยวนแข็งค่าครั้งก่อนทำให้ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวขึ้นมาราว 10% และบางประเทศปรับตัวขึ้นมาถึง 15% ในช่วง 1-2 เดือน ดังนั้น มองช่วงสั้นไม่เกิน 1 เดือน ดัชนีตลาดหุ้นไทยน่าจะอยู่ที่ 808-820 จุด
นอกจากนั้น ในช่วงนี้ยังจะมีสภาพคล่องเข้ามาในตลาดมากขึ้น โดยเฉพาะช่วงที่บริษัทจดทะเบียนใกล้จะประกาศงบการเงินไตรมาส 2 โดยกลุ่มธนาคารพาณิชย์จะทยอยประกาศเป็นกลุมแรกในช่วงสัปดาห์นี้ หรือราว 20-21 มิ.ย. และเงินทุนต่างประเทศน่าจะยังไหลเข้า ซึ่งเมื่อรวมเงินลงทุนในพันธบัตรเกาหลีใต้ที่จะครบกำหนดกว่า 1 แสนล้านบาททมีโอกาสจะไหลเข้าไทย เพราะเกาหลีมีความเสี่ยงเรื่องสงคราม
อย่างไรก็ตาม มองดัชนี SET รอบนี้จะเป็นการปรับขึ้นระยะสั้น เพราะจะเริ่มเห็นขาลงในช่วงปลาย ก.ค.มาที่ 720-700 จุด จากคาดการณ์เดิมที่ 680-690 และหลังจากเดือน ก.ค.ไป ตลาดก็จะน่าจะเป็นขาลงไปถึงปลายปี เพราะปัญหาวิกฤติยุโรปที่ทุกคนจับตา และภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ
แต่ช่วงปลายปีจะเป็นการฟื้นตัวขึ้นมาของดัชนีไปที่ 910 จุดได้ เพราะปกติดัชนีจะตอบรับการฟื้นตัวเศรษฐกิจล่วงหน้า 3-6 เดือน ซึ่งมองว่าช่วงไตรมาส 1/54 ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐจะมีการฟื้นตัวบ้าง
นายเผดิมภพ กล่าวถึงเม็ดเงินต่างประเทศขณะนี้ที่เข้ามาในตลาดหุ้นไทยว่า ขณะนี้เป็นการเคลื่อนไหวโยกย้ายที่ยังไม่ชัดเจนในทิศทาง เพราะหากดูตัวเลขซื้อสุทธิของต่างชาติในปี 52 อยู่ที่ 1,000 กว่าล้านดอลลาร์ แต่ช่วงต้นปี 53 ถึงปัจจุบันมีการขายออกไปแล้ว 650 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ยังเหลือซื้อสุทธิอยู่ 500 กว่าล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นภาวะปกติที่ต่างประเทศจะถือเงินลงทุนอยู่ที่ราว 500-600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ทั้งนี้ มองว่าต่างประเทศยังไม่น่าขายออกอย่างผิดปกติ ส่วนจะซื้อกลับหรือไม่ คงต้องรอดูผลกระทบจากฝั่งยุโรป และปลายปีถึงต้นปีหน้า กำไรบริษัทจดทะเบียน(บจ.)จะเป็นอย่างไร ซึ่งจากที่คาดว่ากำไร บจ.จะเติบโต 13% ตามคาดการณ์เดิม
นายเผดิมภพ กล่าวต่อว่า ตอนนี้แนะซื้อหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลเพราะ PE ต่ำ ปัจจุบันอยู่ที่ 16 เท่าเทียบภูมิภาค จากก่อนหน้านี้ 25 เท่า เช่น BH BGH และช่วงที่มีข่าวจีนยืดหยุ่นเงินหยวน 3% (เฉพาะช่วงที่ข่าวจีนมา) แนะลงทุนหุ้นที่ส่งออกไปจีน เช่น HANA, SVI, STA