นางภัทธีรา ดิลกรุ่งธีระภพ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส เปิดเผยว่า บริษัทได้ปรับเป้าดัชนีตลาดหุ้นไทยในปีนี้เพิ่มสูงขึ้น โดยมองดัชนีตลาดหุ้นไทย ณ สิ้นปี 53 จะอยู่ที่ 887 จุด จากเดิมที่คาดว่าอยู่ที่ 850 จุด เป็นการปรับหลังจากการชุมนุมทางการเมืองยุติลง
เนื่องจากพบว่าพื้นฐานเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 1/53 ออกมาดี และผลกระทบการชุมนุมทางการเมืองไม่ได้รุนแรงตามที่เคยคาดการณ์ไว้ ขณะที่บริษัทจดทะเบียนมีอัตราการเติบโตของกำไรสุทธิออกมาดีเกินเกินคาด โดยทั้งปี 53 มองว่าบริษัทจดทะเบียนจะมีกำไรสุทธิเติบโตประมาณ 15%
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นไทยช่วงนี้จะมีการเคลื่อนไหวผันผวน ซึ่งเป็นการปรับตัวตามกระแสข่าวที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะแนวโน้มการแข็งค่าของเงินหยวน จะส่งผลให้ตลาดหุ้นปรับตัวทางบวก แต่มองว่าเป็นเพียงปัจจัยบวกระยะสั้นเท่านั้น ระยะยาวมองว่าเศรษฐกิจสหรัฐและยุโรปยังไม่ฟื้นตัว
ขณะที่ปัจจัยในประเทศ ยังไม่มีความชัดเจน แม้รัฐบาลจะมีแผนปรองดอง และเศรษฐกิจยังเดินหน้าต่อไปได้ แต่การฟื้นตัวของภาคเอกชนยังไม่ชัดเจน ดังนั้น รัฐบาลควรจะเร่งออกมาตรการช่วยเหลือภาคธุรกิจ เนื่องจากเป็นห่วงเศรษฐกิจโดยรวมยังไม่ขยายตัว โดยเฉพาะภาคบริการ และธุรกิจโรงแรม
"ตอนนี้ที่ตลาดปรับตัวมาสูง เพราะรับข่าวที่เกิดขึ้นในช่วงสั้นๆเท่านั้น แต่ในระยะยาว นอกจากปัจจัยในประเทศแล้ว เราคงต้องดูในแง่ของเม็ดเงินต่างชาติด้วย เพราะเท่าที่ดูตอนนี้มีทั้งซื้อและขายสลับกัน ไม่ได้เข้ามาอย่างมีนัยสำคัญ" นางภัทธีรา กล่าว
นางภัทธีรา กล่าวอีกว่า บริษัทยังมีแผนจะเดินทางนำเสนอข้อมูลการลงทุน(โรดโชว์) ที่ประเทศสิงคโปร์ โดยเป็นความร่วมมือของกลุ่มดีบีเอสฯ ระหว่างวันที่ 6-8 ก.ค.53 โดยได้เชิญบริษัทจดทะเบียนขนาดกลาง 7-8 ราย เข้าร่วมการโรดโชว์ด้วย เช่น บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร(CPF), บมจ.เดลต้า อีเลคโทรนิคส์(ประเทศไทย)(DELTA) , บมจ.เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป(MAJOR), บมจ.เหมราชพัฒนาที่ดิน(HEMRAJ), บมจ.พรีเซียส ชิปปิ้ง(PSL), บมจ.โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ (BH) , บมจ.สหวิริยาสตีลอินดัสตรี (SSI)
สาเหตุที่เลือกบริษัทขนาดกลาง เนื่องจากมองว่าเป็นบริษัทที่มีพื้นฐานที่ดี มีความสามารถในการขยายตัวในอนาคต และต้องการให้นักลงทุนเห็นความหลากหลายของธุรกิจ โดยคาดว่าจะได้รับความสนใจจากนักลงทุนที่คาดว่าจะเข้าร่วมงานกว่า 200 ราย
นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการให้ฝ่ายข้อมูลศึกษาเพื่อเตรียมทบทวนเป้าหมายดัชนีตลาดหุ้นไทยปีนี้ จากเดิมที่ฝ่ายวิจัยมองดัชนีอยู่ที่ 820 จุด เนื่องจากมองว่าสภาพคล่องในตลาดยังมีอยู่มาก โดยเฉพาะที่ประเทศในเอเซียมีความโดดเด่นมากที่สุด โดยเฉพาะจีนและอินเดียที่เศรษฐกิจเติบโต และได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจในยุโรปน้อย ซึ่งไทยได้รับอานิสงก์ด้วย ขณะที่ P/E ยังต่ำ