ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (21 มิ.ย.) โดยดัชนีดีดตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 1 เดือน หลังจากธนาคารกลางจีนส่งสัญญาณว่าจะยุตินโยบายการผูกติดค่าเงินหยวนกับดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งข่าวดังกล่าวช่วยหนุนราคาสินค้าโภคภัณฑ์ รวมถึงน้ำมันและโลหะ พุ่งขึ้น
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ดีดขึ้น 48.27 จุด หรือ 0.92% ปิดที่ 5,299.11 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 5,250.84 - 5,331.46 จุด
ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวขึ้นขานรับข่าวธนาคารกลางจีนตัดสินใจปรับเงินหยวนให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น ซึ่งทำให้นักวิเคราะห์หลายคนมองว่าความเคลื่อนไหวครั้งล่าสุดของจีนอาจปูทางไปสู่การปรับขึ้นค่าเงินหยวนและยุติการใช้นโยบายผูกติดเงินหยวนกับดอลลาร์สหรัฐ
นอกจากนี้มีรายงานว่า รัฐบาลอังกฤษเตรียมขึ้นภาษีกับธนาคารและผู้ฝากเงิน ขณะเดียวกันก็จะลดการใช้จ่ายด้านสวัสดิการสังคมในการแถลงงบประมาณวันพรุ่งนี้ เพื่อลดยอดขาดดุลงบประมาณที่สูงเป็นประวัติการณ์ โดยไม่ส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่พุ่งขึ้นและช่วยหนุนดัชนี FTSE 100 ปิดบวก โดยหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน พุ่งขึ้น 4.7% หุ้นริโอ ตินโต ปิดบวก 5.0% และหุ้นเวแดนตา รีซอร์สเซส ปิดพุ่ง 6.0%
ส่วนหุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้นตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก โดยหุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ ปิด 1.4% หุ้นบีจี กรุ๊ป ปิดบวก 0.8% แต่หุ้นบีพีปิดร่วง 2.2% เนื่องจากความกังวลเรื่องปัญหาน้ำมันรั่วในอ่าวเม็กซิโก โดยล่าสุดมีรายงานว่ารัฐบาลสหรัฐได้บังคับ ให้บริษัทน้ำมันบีพีใช้มาตรการเชิงรุกมากกว่าเดิมในการรับมือกับเหตุน้ำมันรั่ว