นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล เลขาธิการคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และประธานคณะกรรมการกำกับตลาดทุน เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการกำกับตลาดทุนในการประชุมครั้งที่ 5/2553 ประจำเดือน มิ.ย. 53 มีมติเห็นชอบแนวทางการดำเนินการกับเงินปันผลของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ในส่วนของผู้ถือหน่วยลงทุนที่ถือเกินกว่าอัตราที่หลักเกณฑ์กำหนดทำให้ไม่สามารถรับเงินปันผลดังกล่าวได้
ทั้งนี้ ให้บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กันเงินส่วนที่ไม่อาจจ่ายเป็นเงินปันผลออกจากบัญชีของกองทุนรวม โดยไม่ต้องนำมาคำนวณมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (NAV) ของกองทุนรวม และให้ยกเงินดังกล่าวให้แก่แผ่นดิน
นายธีระชัย กล่าวว่า หลักเกณฑ์ปัจจุบันได้ห้าม บลจ. เสนอขายหน่วยลงทุนให้แก่บุคคลหรือกลุ่มบุคคลเดียวกันใด ๆ เกิน 1 ใน 3 ของจำนวนหน่วยลงทุนที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด ยกเว้นเป็นนิติบุคคลบางประเภท เช่น กองทุนประกันสังคม ซึ่งจะได้รับจัดสรรไม่เกิน 50% ของจำนวนหน่วยลงทุนที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด เพื่อไม่ให้มีการใช้กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เป็นเครื่องมือในการบริหารจัดการทรัพย์สินหรือเพื่อประโยชน์ทางภาษีจากการลงทุนของบุคคลใดหรือกลุ่มบุคคลใด
หากปรากฏว่ามีการถือหน่วยลงทุนเกินอัตราที่กำหนดภายหลังจากที่กองทุนรวมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยแล้ว บลจ.จะต้องไม่จ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนและกลุ่มบุคคลเดียวกันในส่วนที่ถือเกิน ซึ่งที่ผ่านมายังไม่เคยมีข้อกำหนดว่าจะให้ บลจ.ดำเนินการอย่างไรกับเงินปันผลส่วนนี้ หลักเกณฑ์ที่กำหนดในครั้งนี้จึงมีความเหมาะสมและสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของการกำกับดูแลกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์
ดังนั้น กองทุนรวมที่จะจัดตั้งต่อไปจะต้องระบุถึงวิธีดำเนินการตามหลักเกณฑ์ข้างต้นไว้ในโครงการและข้อผูกพันระหว่างผู้ถือหน่วยลงทุนกับ บลจ.
สำหรับกองทุนรวมที่จัดตั้งแล้ว หากพบว่ามีการถือหน่วยลงทุนเกินอัตราที่กำหนด ให้ บลจ. กันเงินส่วนที่ไม่อาจจ่ายเป็นเงินปันผลออกจากบัญชีของกองทุนรวม โดยไม่ต้องนำมาคำนวณ NAV พร้อมทั้งให้ขอมติจากผู้ถือหน่วยลงทุนว่าจะยกเงินดังกล่าวให้แก่แผ่นดิน หรือจะคงเงินดังกล่าวไว้ในบัญชีที่กันไว้ หลังจากนั้นให้ขอความเห็นชอบจากสำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อแก้ไขเพิ่มเติมโครงการต่อไป