ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ดิ่ง 148.89 จุด หลังสหรัฐเผยยอดขายบ้านมือสองร่วงหนัก

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday June 23, 2010 06:55 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลง 1.43% เมื่อคืนนี้ (22 มิ.ย.) ซึ่งเป็นการร่วงลงติดต่อกันเป็นวันที่ 2 หลังจากสหรัฐเปิดเผยยอดขายบ้านมือสองที่ร่วงลงอย่างหนัก ส่งผลให้นักลงทุนกระหน่ำขายหุ้นที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจพลังงานยังถูกเทขาย อันเนื่องมาจากข่าวที่ว่ารัฐบาลสหรัฐพยายามเดินหน้าใช้กฎหมายห้ามขุดเจาะน้ำมันนอกชายฝั่ง หลังจากเกิดเหตุการณ์น้ำมันรั่วครั้งใหญ่ในอ่าวเม็กซิโก

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ร่วงลง 148.89 จุด หรือ 1.43% ปิดที่ 10,293.52 จุด ดัชนี S&P 500 ลดลง 17.89 จุด หรือ 1.61% ปิดที่ 1,095.31 จุด และดัชนี Nasdaq รูดลง 27.29 จุด หรือ 1.19% ปิดที่ 2,261.80 จุด

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 1.1 พันล้านหุ้น มีจนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในอัตราส่วน 4 ต่อ 1

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างซบเซา ขณะที่หุ้นธุรกิจสร้างบ้านถูกเทขายอย่างหนัก หลังจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองเดือนพ.ค.ดิ่งลง 2.2% สู่ระดับ 5.66 ล้านยูนิต/ปี บ่งชี้ว่ากลุ่มผู้ซื้ออสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐยังคงมีท่าทีระมัดระวังแม้รัฐบาลประกาศใช้นโยบายสร้างแรงจูงใจ รวมถึงการลดหย่อนภาษีก็ตาม

ข้อมูลของ NAR ระบุว่า การร่วงลงของยอดขายบ้านมือสองในรัฐแถบตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐ เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ยอดขายบ้านมือสองโดยรวมในเดือนพ.ค.ร่วงลงอย่างหนัก ส่วนสต็อกบ้านมือสองที่ยังไม่ปิดดีลการขายนั้น ปรับตัวลดลง 3.4% สู่ระดับ 3.9 ล้านยูนิต ขณะที่ราคากลางของบ้านมือสองในเดือนพ.ค.อยู่ที่ระดับ 179,000 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 2.7%

ทั้งนี้ หุ้นทูลล์ บราเธอร์ส ปิดร่วง 3.2% หุ้นฮอฟนาเนียน เอนเตอร์ไพรซ์ ปิดลบ 3.5%

หุ้นกลุ่มพลังงานดิ่งลงหลังจากมีรายงานว่า คณะทำงานของประธานาธิบดีบารัค โอบามา พยายามบังคับใช้กฎหมายห้ามขุดเจาะน้ำมันบริเวณเขตน้ำลึกนอกชายฝั่งเม็กซิโก หลังจากเหตุการณ์ระเบิดที่แท่นขุดเจาะน้ำมันของบริษัทบีพีส่งผลให้เกิดน้ำมันรั่วครั้งใหญ่ จนทำให้บีพีเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบากทั้งในด้านงบประมาณรายจ่ายและการแก้ไขปัญหาน้ำมันรั่ว โดยจนถึงขณะนี้บริษัทบีพีสูญเงินไปแล้ว 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐจากเหตุน้ำมันรั่วไหลในอ่าวเม็กซิโก

ทั้งนี้ หุ้นเบเกอร์ ฮิวจ์ อิงค์ ซึ่งเป็นซัพพลายเออร์ชิ้นสุดแท่นขุดเจาะน้ำมัน ร่วงลง 4.4% หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน อิงค์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการพลังงาน ดิ่งลง 3.9%

ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเสร็จสิ้นการประชุมระยะ 2 วันในคืนนี้ตามเวลาประเทศไทย โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟดจะยังตรึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (fed fund rate) ไว้เท่าเดิมที่ 0 - 0.25% ในการประชุมครั้งนี้ ซึ่งจะทำให้อัตราดอกเบี้ยบัตรเครดิตและเงินกู้สำหรับผู้บริโภคยังคงอยู่ในระดับต่ำ เนื่องจากมีสัญญาณบ่งชี้ว่าการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอาจเป็นไปอย่างล่าช้า รวมถึงวิกฤตหนี้สาธารณะในยุโรป ภาวะผันผวนในตลาดวอลล์สตรีท ท่าทีระมัดระวังของผู้บริโภค ภาวะเปราะบางในตลาดที่อยู่อาศัย และอัตราว่างงานที่ยืนอยู่ในระดับสูง

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันพุธ กระทรวงพาณิชย์จะเปิดเผยยอดขายบ้านใหม่เดือนพ.ค. และสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์

ส่วนวันพฤหัสบดี กระทรวงพาณิชย์จะเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนพ.ค. และกระทรวงแรงงานจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และวันศุกร์ กระทรวงพาณิชย์จะเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ขั้นสุดท้ายประจำไตรมาสแรกปีนี้ และรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนจะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นขั้นสุดท้ายเดือนมิ.ย.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ