น.ส.โศภชา ดำรงปิยวุฒิ์ กรรมการผู้จัดการ บมจ. กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง เปิดเผยว่า เบื้องต้นคาดว่าบริษัทจะมีการระดมทุนและเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ได้ประมาณปลายปี 2553 หรืออาจจะเป็นช่วงต้นปี 2554
ทั้งนี้ บริษัทจะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 100 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ซึ่งจะทำให้ทุนจดทะเบียนเรียกชำระแล้วของบริษัทเพิ่มขึ้นเป็น 400 ล้านบาท เพื่อเสนอขายต่อประชาชนทั้งจำนวนหรือคิดเป็น 25% ของจำนวนหุ้นที่ออกและเรียกชำระแล้วภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญในครั้งนี้ จากนั้นบริษัทจะดำเนินการนำหุ้นสามัญของ บริษัทเข้าเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
กลุ่มกันกุลเอ็นจิเนียริ่ง ดำเนินธุรกิจผลิต จัดหา และจำหน่ายอุปกรณ์สำหรับระบบไฟฟ้าซึ่งครอบคลุมอยู่ในทุกขั้นตอนของระบบการส่งและจำหน่ายไฟฟ้าตั้งแต่โรงไฟฟ้าจนถึงผู้ใช้ไฟฟ้าด้วยสินค้าคุณภาพกว่า 5,000 รายการ เพื่อตอบสนองต่อความต้องการและลักษณะการใช้งานที่แตกต่างกันของลูกค้าแต่ละกลุ่ม ทั้งการใช้งานในระดับครัวเรือนจนถึงการใช้งานในระดับมหภาคของหน่วยงานภาค รัฐนอกจากนี้กลุ่มบริษัทยังประกอบธุรกิจจัดหาและจำหน่ายอุปกรณ์สำหรับระบบพลังงานทดแทนอีกด้วย
ขณะนี้ บริษัท กันกุล พาวเวอร์เจน จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท (ถือหุ้นร้อยละ 99.99) ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) เพื่อผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าให้กับ กฟภ. ขนาด 7.4 เมกะวัตต์ ระยะเวลานาน 25 ปี โดย “กันกุล พาวเวอร์เจน"จะได้รับการสนับสนุนส่วนเพิ่มค่าไฟฟ้า (adder) ในการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนที่หน่วยละ 8 บาท เนื่องจากเป็นการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ (solar cell)ในช่วงเวลา 10 ปีแรก
การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์จะแบ่งออกเป็น 2 เฟส โดยเฟสแรกจะมีกำลังการผลิตขนาด 3 เมกะวัตต์ ซึ่งคาดว่าจะใช้เงินลงทุนเบื้องต้นประมาณ 360 ล้านบาท โดยเป็นเงินทุนที่มาจากเงินทุนหมุนเวียนภายในกิจการและจากสถาบันการเงิน ซึ่งจะเริ่มก่อสร้างโรงฟ้าและติดตั้งระบบต่างๆ ในทันที โดยจะใช้ระยะเวลาในการดำเนินการประมาณ 6 เดือน และในเบื้องต้นคาดว่าจะเริ่มจำหน่ายไฟฟ้าได้ประมาณปลายปี 2553 พร้อมกันนี้คาดว่าในส่วนของเฟสแรก จะสร้างรายได้ให้กับบริษัทประมาณ 50 ล้านบาทต่อปี
สำหรับเฟสที่ 2 มีกำลังการผลิตขนาด 4.4 เมกะวัตต์ จะเริ่มดำเนินการทันทีเมื่อเฟสแรกสามารถผลิตและขายไฟฟ้าได้ สำหรับเงินลงทุนในเฟสที่ 2 เบื้องต้นคาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 500 ล้านบาท ซึ่งนอกจากเงินทุนที่จะได้มาจากทุนหมุนเวียนภายในกิจการแล้ว อีกส่วนหนึ่งคาดว่าจะใช้เงินจากการเสนอขายหุ้นไอพีโอให้กับประชาชนทั่วไป ซึ่งตามแผนงานเบื้องต้น บมจ.กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง คาดว่าจะมีการระดมทุนและเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ได้ประมาณปลายปีนี้ หรืออาจจะเป็นช่วงต้นปี2554
และในอนาคตบริษัทมีแผนที่จะเปิดโรงไฟฟ้าใหม่ๆ เพิ่มขึ้นตามจังหวัดต่างๆ ที่มีศักยภาพและยังมีความต้องการใช้ไฟฟ้า จากโครงการแรกที่ก่อสร้างในจังหวัดเพชรบูรณ์ เนื่องจากบริษัทมี room ผลิตได้ถึง 30 เมกะวัตต์ ซึ่งเป็นส่วนที่ได้ยื่นความจำนงกับ กฟภ.ไว้แล้ว