"ออฟฟิศเมท" พร้อมเข้าตลาด mai ก.ค.นี้ คาดรายได้ปี 53 เกิน 1 พันลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday June 23, 2010 11:50 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวรวุฒิ อุ่นใจ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ออฟฟิศเมท เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างการขออนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปจำนวน 20 ล้านหุ้น คิดเป็น 25% ของทุนจดทะเบียนหลังเข้าตลาดหลักทรัพย์ มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท คาดว่าจะเข้าระดมทุนและจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai ภายในเดือน ก.ค.นี้

บริษัทเป็นผู้ประกอบการประเภท Distance Trade ในธุรกิจสินค้าเครื่องเขียนและอุปกรณ์สำนักงานที่ไม่มีหน้าร้านเป็นของตนเองแต่จะขายผ่าน 2 ช่องทางหลัก คือการขายผ่านระบบแค็ตตาล็อก ภายใต้ตราสินค้าของผู้ผลิตชั้นนำและตราสินค้าของบริษัท โดยจะรับคำสั่งซื้อทางระบบ Call Center และอีกช่องทางหนึ่งจะขายทางออนไลน์หรือระบบ E-Commerce เน้นให้บริการกลุ่มลูกค้าองค์กร ซึ่งปัจจุบันมีกว่า 70,000 องค์กรทั่วประเทศ

วัตถุประสงค์ของการระดมทุนในครั้งนี้ เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจในอนาคต ตลอดจนการพัฒนาเว็บไซต์ trendyday.com อย่างเต็มรูปแบบโดยตั้งเป้าหมายที่จะผลักดันสู่รูปแบบห้างสรรพสินค้าออนไลน์ที่ครบวงจรรายแรก เพราะเล็งเห็นศักยภาพของธุรกิจ E-Commerce ในประเทศไทยที่มีอัตราเติบโตสูงถึง 30% ต่อปี จากฐานผู้ใช้อินเตอร์เน็ต 16-17 ล้านคน ทีมีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมและไลฟ์สไตล์ในการซื้อสินค้าผ่านอินเตอร์เน็ตมากขึ้น

ธุรกิจดังกล่าวเป็นตลาดที่น่าสนใจและมีช่องทางการเติบโตที่ค่อนข้างสูง แต่ปัจจุบันยังไม่มีใครเป็นผู้นำตลาดได้ชัดเจน ซึ่งออฟฟิศเมทมีจุดแข็งที่รายอื่นทำไม่ได้ อาทิ ความชำนาญทางด้านการจัดการสินค้า ความรวดเร็วในการจัดส่ง ความปลอดภัยและน่าเชื่อถือในการรับบริการชำระเงิน ทั้งเงินสดหรือบัตรเครดิตที่พนักงานให้บริการถึงบ้าน

นายวรวุฒิ กล่าวว่า ในปี 53 บริษัทฯ ตั้งเป้าอัตราการเติบโตของรายได้ไว้ที่ 20% จากปี 52 ที่มีรายได้รวมเท่ากับ 914 ล้านบาท คาดว่าน่าจะอยู่ที่ระดับเกิน 1,000 ล้านบาท ซึ่งจะมาจากฐานลูกค้าเดิมและ ลูกค้าใหม่ที่บริษัทฯวางแผนเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดด้วยการนำระบบ e-Procurement เข้ามาช่วยในการสั่งซื้อพิเศษเฉพาะองค์กร รวมทั้งลูกค้ากลุ่ม trendyday.com

ผลการดำเนินในไตรมาส 1/53 บริษัทฯ มีรายได้รวมเท่ากับ 282 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23% จากช่วงเดียวกันของปี 52 และมีกำไรสุทธิ 14 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 86% จากช่วงเดียวกันของปี 52 ซึ่งเป็นผลมาจากทิศทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้นประกอบกับนโยบาย “สั่งซื้อเพียง 499 บาท รับบริการส่งฟรีทั่วไทย" ทำให้ได้รับการตอบรับจากลูกค้าอย่างมาก


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ