บมจ.บ้านปู(BANPU)คาดว่าราคาเฉลี่ยถ่านหินในปีนี้น่าจะสูงกว่าประมาณการที่ 65-70 เหรียญ/ตัน หลังจากที่ราคาตลาดโลกขณะนี้ปรับขึ้นมาถึง 100 เหรียญ/ตันแล้ว ดังนั้น รายได้ของบริษัทก็น่าจะสูงกว่าที่เคยคาดไว้ที่ 5.8 หมื่นล้านบาท
"ราคาถ่านหินเฉลี่ยปีนี้ น่าจะสูงกว่าที่เคยประมาณการไว้ 65-70 เหรียญ/ตัน แนวโน้มรายได้ก็น่าจะสูงกว่าประมาณการไว้ด้วย" นายชนินท์ ว่องกุศลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BANPU กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทยังคงเป้าหมายปริมาณขายถ่านหินในปีนี้ที่ 23 ล้านตัน
นายชนินท์ กล่าวว่า ราคาถ่านหินขณะนี้แตะระดับ 100 เหรียญ/ต้น ซึ่งบริษัทยังมีส่วนที่จะขายอิงกับราคา spot ทำให้ราคาขายถ่านหินเฉลี่ยในปีนี้ปรับตัวสูงขึ้น ประกอบกับ ประเมินว่าปัญหาเศรษฐกิจในยุโรปที่ชะลอตัวไม่น่าจะทำให้ราคาถ่านหินลดลง เพราะกำลัง การผลิตถ่านหินลดลง ขณะที่ความต้องการในจีนและอินเดียก็ยังมีต่อเนื่อง
สำหรับเหมืองโจร่งในอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นโครงการลงทุนของบริษัทที่ยังหยุดการผลิตนั้น ยังไม่สามารถคาดการณ์ว่าจะเปิดทำการอีกครั้งเมื่อไร แต่บริษัทได้เตรียมแผนจะให้เหมืองถ่านหินในอินโดนีเซียอีก 4 แห่งเพิ่มการผลิตมาชดเชยปริมาณผลิตเหมืองโจร่ง ที่มีกำลังการผลิต 2 ล้านต้น/ปี คิดเป็น 5% ของรายได้ในอินโดนีเซีย
นอกจากนี้ ยังมองโอกาสขยายการลงทุนที่อินโดนีเซียและจีนตามแผนการลงทุน 5 ปี ขณะที่การลงทุนเหมืองในออสเตรเลีย หลังจากเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นไปแล้ว ขณะนี้บริษัทยังไม่มีแนวคิดที่จะลงทุนเพิ่มอีก โดยคาดว่าจะได้รับรู้ในรูปเงินปันผลเข้ามา
เมื่อเร็วๆนี้ BANPU ลงทุน Centennial Coal สัดส่วน 19.9% ในออสเตรเลีย
พร้อมกันนี้ คาดว่าบริษัทจะได้ข้อสรุปเรื่องเงินกู้ 2.8 พันล้านเหรียญสหรัฐในโครงการหงสาในไตรมาส 3/53 โดยส่วนใหญ่มาจากสถาบันการเงินในประเทศ ซึ่งมีสภาพคล่องสูง