หุ้นเหล็กคึกคัก หลังรัฐบาลจีนจะยกเลิกคืนภาษีผู้ส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์

หุ้นกลุ่มเหล็กปรับตัวขึ้น ด้วยวอลุ่มเทรดที่เข้ามาอย่างคึกคัก โดยเมื่อเวลา 10.16 น.ราคาหุ้น SSI อยู่ที่ 1.60 บาท เพิ่มขึ้น 0.06 บาท(+3.90%)มูลค่าซื้อขาย 202.24 ล้านบาท

หุ้น GSTEEL ราคาอยู่ที่ 0.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.01 บาท(+2.56%)มูลค่าซื้อขาย 2.08 ล้านบาท

หุ้น GJS ราคาอยู่ที่ 0.19 บาท เพิ่มขึ้น 0.01 บาท(+5.56%)มูลค่าซื้อขาย 10.35 ล้านบาท

บทวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุว่า หุ้นเหล็ก สังกะสี และเกษตรไปต่อ 15 ก.ค. นี้ รัฐบาลจีนจะยกเลิกคืนภาษีผู้ส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์หลายรายการเช่น เหล็กแผ่นรีดร้อน-รีดเย็น เหล็กชุบสังกะสี จะยกเลิกคืนภาษี 9% ส่วนสินค้าประเภทแป้งข้าวโพด เอทานอล ผลิตภัณฑ์ทองแดงกึ่งสำเร็จรูป ตะกั่ว ผลิตภัณฑ์สังกะสี และผลิตภัณฑ์ดีบุกจะยกเลิกการคืนภาษี 5% การยกเลิกการคืนภาษีครั้งนี้เกิดขึ้นพร้อมกับการปล่อยให้หยวนแข็งค่า ซึ่งทำให้ผู้ส่งออกของจีนลำบากอยู่แล้ว และยังยกเลิกการคืนภาษี ยิ่งกดดันผู้ส่งออกอย่างหนัก แต่การทำเช่นนี้ของจีนจะช่วยลดความขัดแย้งทางการค้ากับสหรัฐฯ

มาตรการของจีนกล่าวเป็นผลดีกับผู้ผลิตและส่งออกสินค้าดังกล่าวในไทย เช่น SSI, GSTEEL, GJS และ PDI (วันนี้ปรับราคาเป้าหมายขึ้นจาก 23 บาทเป็น 26 บาท)

ด้านสถาบันวิจัยนครหลวงไทย แนะ “ซื้อ" หุ้น SSI จากประเด็นที่รัฐบาลยกเลิกให้เงินชดเชยแก่ผู้ส่งออกเหล็กในประเทศ คาดจะทำให้สินค้าจากจีนไหลออกมาจากตลาดน้อยลง อีกทั้งยังได้อานิสงค์ของอุปสงค์การใช้เหล็กโลกปี 2553 ที่คาดจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 10.7% ส่งผลบวกให้ความต้องการใช้เหล็กแผ่นรีดร้อน โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมยานยนต์กลับมาขยายตัวอย่างมั่นคง นอกจากนี้ การยกเลิกให้เงินชดเชยแก่ผู้ส่งออกจีน คาดจะทำให้สินค้าจากจีนไหลออกมาจากตลาดน้อยลง ทำให้ปริมาณขายปี 2553 ของ SSI คาดจะกลับมาเติบโตโดดเด่นถึง 44% yoy เป็น 2.6 ล้านตัน

นอกจากนี้ การซื้อวัตถุดิบในระดับถูกและความผันผวนของราคาเหล็กที่ลดลงจากการเน้นผลิตสินค้า Premium Products คาดจะช่วยหนุนให้ผลการดำเนินงานของ SSI กลับมาฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง และทำให้กำไรสุทธิปี 2553 เพิ่มขึ้น 146% yoy เป็น 3,000 ล้านบาท