TBANK เร่งทำแผนธุรกิจหลังควบรวม SCIB เสนอ ธปท.ในสิ้นปี 53

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday June 24, 2010 12:28 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสมเจตน์ หมู่ศิริเลิศ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ธนาคารธนชาต (TBANK) เปิดเผยว่า กระบวนการควบรวมกิจการกับ ธนาคารนครหลวงไทย(SCIB)คาดว่าจะแล้วเสร็จทั้งกระบวนการภายในสิ้นปี 54

ขณะนี้มี 2 เรื่องสำคัญที่ต้องดำเนินการ คือ การให้ทีมงานของธนาคารทั้ง 2 แห่งจัดทำแผนงานของแต่ละผลิตภัณฑ์ ซึ่งธนาคารโนวาสโกเทียได้จัดส่งเจ้าหน้าที่เข้าร่วมทำแผนงานด้วย และหลังจากนั้น ธนาคารจะต้องนำแผนธุรกิจเสนอต่อธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อพิจารณาการควบรวมกิจการครั้งนี้เพื่อให้มั่นใจว่าธนาคารยังคงเดินหน้าธุรกิจได้อย่างแข็งแกร่ง และลูกค้ายังได้รับบริการทางการเงินที่ดีและราบรื่น ขั้นตอนที่ ธปท.จะพิจารณาคาดว่าจะมีข้อสรุปในสิ้นปี 53

"สิ่งที่ดำเนินการแล้ว ได้ตั้งทีมงานและผู้บริหารพูดคุยกับสาขาต่างจังหวัดของธนาคารทั้งสองแห่ง และถ่ายทอดแนวคิด นโยบายให้สาขารับทราบ ซึ่งหลังควบรวมแล้วจะทำให้พอร์ตสินเชื่อรถยนต์ สินเชื่อบัตรเครดิต สินเชื่อบุคคล สินเชื่อที่อยู่อาศัย มีสัดส่วน 50% ที่เหลือเป็น สินเชื่อเอสเอ็มอี สินเชื่อขนาดกลาง และสินเชื่อขนาดใหญ่ โดยมีสินทรัพย์รวม 8 แสนล้านบาท" นายสมเจตน์ กล่าว

นายสมเจตน์ กล่าวว่า หลังควบรวมจะทำให้ทีมงานทั้งสองแห่ง มีบริการที่ครบถ้วน ลูกค้าได้ประโยชน์ มีการบริหารธุรกิจใหญ่ขึ้น และมีความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้น เพื่อเป็นธนาคารอันดับ 5 และมีโครงสร้างธุรกิจจะมีรายได้เพิ่มขึ้น ลดความเสี่ยง ผู้ถือหุ้นมีความมั่นใจมากขึ้น ส่วนจำนวนพนักงานของธนาคาร 2 แห่ง หลังควบรวมกิจการแล้ว อาจไม่มีการลดจำนวนพนักงานมากนัก เนื่องจากโครงสร้างพนักงานไม่ได้มีความซ้ำซ้อน เพราะ TBANK จะเน้นพนักงานที่เกี่ยวกับสินเชื่อรถยนต์ ส่วน SCIB จะเป็นพนักงานที่ดูแลสินเชื่อขนาดกลาง ขนาดใหญ่

ทั้งนี้ ในสิ้นเดือน มิ.ย. 53 หลังได้มีการทำเทนเดอร์แล้ว TBANK จะมีสัดส่วนถือหุ้นใน SCIB 99.23% และช่วงครึ่งปีหลังจะมีนำงบการเงินของ SCIB มารวมในบัญชี แต่การเติบโตของรายได้ของ TBANK ในปีนี้ ยังเป็นไปอย่างเป็นปกติ แต่เมื่อกระบวนการควบรวมกิจการแล้วเสร็จก็จะสร้างมูลค่าเพิ่มมากขึ้น จากนั้นในปี 54 จะเติบโตอย่างก้าวกระโดดและมีนัยสำคัญ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ