บมจ. ซีฟโก้ (SEAFCO) คาดว่าผลประกอบการช่วงครึ่งปีหลังนี้จะกลับมามีกำไรได้ หลังจากไตรมาสแรกมีผลขาดทุน 21.55 ล้านบาท และไตรมาส 2/53 ยังไม่แน่ใจจะขาดทุนอีกหรือเปล่า โดยขณะนี้ได้เร่งมือส่งมอบงานในเดือนนี้ หลังจากช่วง เม.ย.-พ.ค. การส่งมอบงานล่าช้าจากเหตุความวุ่นวายทางการเมือง
แต่มั่นใจว่าสถานการณ์ครี่งหลังปีนี้สดใสทั้งงานใหม่ที่กำลังทยอยจะเข้ามาจากทั้งภาครัฐและเอกชนทั้งภาคเอกชนและภาคราชการ จากแนวโน้มหลายโครงการภาครัฐก็ทยอยเข้ามา ได้แก่ โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน คาดว่าหากงานออกมามาก บริษัทก็จะได้รัยงานเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีส่วนแบ่งตลาดธุรกิจเสาเข็มอยู่ 40%
"ไตรมาส 3 ไตรมาส 4 ต้องสดใสมากๆ ไตรมาสหนึ่งเป็นช่วงเราเตรียมงาน ไตรมาส 2 ก็เจอช่วงวิกฤต...ไตรมาสหนึ่งขาดทุนอยู่ ไตรมาสสองคงไม่สวยหรู แต่มองว่าไตรมาส 3-4 ดีแน่ และมีกำไรแน่นอน"นายณรงค์ ทัศนนิพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ SEAFCO กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากในไตรมาส 2/53 บริษัทส่งมอบงานช้ากว่าแผน อาจส่งผลให้รายได้ทั้งปี 53 ทำไม่ได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 2 พันล้านบาท แต่ในเดือน มิ.ย.บริษัทเร่งส่งมอบงานให้ได้มากที่สุด จึงยังไม่สามารถประเมินขณะนี้ได้ว่าจะยังขาดทุนต่อเนื่องจากไตรมาสแรก หรือกลับมีกำไรได้ ทั้งนี้ต้องรอปิดงบการเงินในไตรมาส 2/53 จึงจะประเมินรายได้ทั้งปีชัดเจนขึ้น
"ยังไม่ได้มีการลดปรับเป้ารายได้ แต่ดูแล้วมีแนวโน้มปรับลงเหมือนกัน เพราะเดือนเมษายน พฤกษภาคม เราส่งมอบงานได้น้อยลง ก็จะดูเดือนมิถุนายนจะทดแทนได้หรือเปล่า แต่ปรับลงคงไม่มากมายนัก"นายณรงค์ กล่าว
ปัจจุบัน บริษัทมีงานในมือ(backlog)ประมาณ 2.2-2.3 พันล้านบาท รวม 11 โครงการใหม่ที่เพิ่งได้รับในเร็ว ๆ นี้ มูลค่ารวม 683.76 ล้านบาทแล้ว ซึ่งคาดว่าจะรับรู้รายได้ในปีนี้ประมาณ 1.3 พันล้านบาท ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากงานรถไฟฟ้าสายสีม่วงที่รับรู้ในปีนี้ครึ่งหนึ่งหรือเป็นเงินประมาณ 300-400 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะรับรู้จากงานใหม่ที่ได้ในปีนี้