นายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทย(TMB) กล่าวว่า ธนาคารคาดว่าจะสามารถล้างขาดทุนสะสมได้หมดภายในไตรมาส 2/53 หลังจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นในวันนี้อนุมัติให้ลดพาร์ เหลือ 0.95 บาท จากพาร์ 10 บาท ซึ่งการลดพาร์ดังกล่าวจะทำให้มีขาดทุนสะสมเหลือเพียง 78 ล้านบาท และธนาคารสามารถล้างขาดทุนสะสมที่เหลือดังกล่าวได้หมด เพราะในไตรมาส 1/53 มีผลกำไร
ทั้งนี้ หลังธนาคารล้างขาดทุนสะสมได้หมดแล้ว เชื่อว่าจะสามารถจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นได้ ส่วนจะเป็นการจ่ายปันผลระหว่างกาลหรือจ่ายเงินปันผลประจำปี ก็ขึ้นอยู่กับความเหมาะสม ซึ่งคณะกรรมการธนาคาร และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่จะพิจารณาฐานะการเงินของธนาคารและความแข็งแกร่งด้านการเงิน
นายบุญทักษ์ กล่าวว่า ขณะนี้ธนาคารมีความแข็งแกร่งและมีผลการดำเนินงานที่ดีทั้งจากการทำธุรกรรมทั้งในและต่างประเทศ และในช่วงครึ่งปีหลังคาดว่าจะมีการดำเนินงานที่ดีต่อเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจ และได้รับผลดีจากการที่จีนปรับค่าเงินหยวน ซึ่งจะทำให้ธนาคารเดินหน้าธุรกิจได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
"เมื่อเราไม่มีขาดทุนสะสม ก็จะทำให้เป็นที่น่าสนใจและทำให้การดำเนินธุรกิจมีความสะดวกมากขึ้น และตอนนี้ยิ่งธนาคารมีผลดำเนินงานที่ดีต่อเนื่อง และการลดพาร์ ไม่อยากให้ผู้ถือหุ้นกังวล เพราะราคาหุ้นธนาคาร ขึ้นอยู่กับราคาตลาดมากกว่า ซึ่งตอนนี้ขึ้นมาอยู่ที่ 1.40 บาทแล้ว" นายบุญทักษ์ กล่าว
นอกจากนี้ ธนาคารมีการปรับแผนดำเนินธุรกิจ โดยเฉพาะการย้ายสาขาที่ไม่ตรงกลุ่มเป้าหมาย เพื่อทำให้ธนาคารสามารถแข่งขันกับธนาคารอื่นได้ ธนาคารมีแผนธุรกิจ 5 ปี (52-56)ที่จะเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดด้านเงินฝากเป็น 14% จากปัจจุบันอยู่ที่ 6-7%
ขณะที่นางเสาวนีย์ กมลบุตร รองปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมการ ธนาคารทหารไทย(TMB)เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงการคลังในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ TMB ทำหนังสืออย่างเป็นทางการไปยังกลุ่มไอเอ็นจี เพื่อเสนอขายหุ้นทั้งหมดที่กระทรวงการคลังถืออยู่ 26% และขณะนี้ยังไม่มีการเจรจากับผู้ลงทุนรายอื่น ซึ่งคาดว่าการขายหุ้นดังกล่าวจะแล้วเสร็จภายในสิ้นปี 53
การที่กระทรวงการคลังเลือกเสนอขายหุ้นที่ถืออยู่ให้กับกลุ่มไอเอ็นจี เป็นไปตามข้อตกลงที่ทำไว้ว่าจะเสนอขายเป็นรายแรก และยังมองว่าไอเอ็นจีเป็นผู้ถือหุ้นและเป็นมิตรที่ดี แต่ยังไม่มีการเจรจาเรื่องราคาซื้อขาย เพราะยังรอคำตอบจากไอเอ็นจี ขณะที่กระทรวงการคลังก็ไม่ได้เร่งรีบขายหุ้น เพราะธนาคารยังมีความแข็งแกร่งมั่นคง และมีการบริหารงานที่มีผลกำไรแล้ว
"เรื่องการขายหุ้นของคลังให้ไอเอ็นจี ถือเป็นการแสดงเจตนาในการขายทั้งหมด แต่เราก็คงรอคำตอบกลับจากไอเอ็นจีมาเท่านั้น เพราะก่อนหน้านี้ที่คลังเข้ามาถือหุ้น เพื่อต้องการให้แบงก์แข็งแกร่ง"นางเสาวนีย์ กล่าว