ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดตลาดร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ นอกจากนี้ เงินเยนที่แข็งค่าขึ้นยังส่งผลให้บรรยากาศการซื้อขายซบเซาลงด้วย
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดร่วงลง 190.86 จุด หรือ 1.92% แตะที่ 9,737.48 จุด
ราคาหุ้นร่วงลงเกือบทั้งกระดาน โดยหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ดิ่งลงหนักสุด ตามด้วยหุ้นกลุ่มเครื่องจักรอิเล็กทรอนิก กลุ่มผู้ผลิตแก้วและเซรามิก ส่วนหุ้นกลุ่มธุรกิจไฟฟ้าและก๊าซ ดีดตัวขึ้นมากที่สุดในวันนี้ ตามด้วยหุ้นกลุ่มกระดาษและเยื่อกระดาษ และกลุ่มเวชภัณฑ์
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นโตเกียวเป็นไปอย่างซบเซาหลังจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลง 145.64 จุด หรือ 1.41% ปิดที่ 10,152.80 จุดเมื่อคืนนี้ ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐ และข่าวที่ว่าสภาคองเกรสสหรัฐยังคงเดินหน้าอภิปรายเรื่องมาตรการยกเครื่องระบบการเงิน โดยบรรดาผู้นำพรรคเดโมแครตต้องการให้สภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาสหรัฐผ่านร่างกฎหมายดังกล่าว ก่อนที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา จะเดินทางไปร่วมประชุมผู้นำกลุ่ม G20 ที่เมืองโทรอนโต ประเทศแคนาดา ในช่วงสุดสัปดาห์นี้
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นโตเกียวยังถูกกดดันหลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ปรับลดมุมมองเศรษฐกิจและประเมินเศรษฐกิจอย่างระมัดระวัง โดยในการประชุมครั้งล่าสุดเมื่อวันพุธที่ผ่านมา เฟดออกแถลงการณ์ว่า แม้ว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ 'ยังคงดำเนินต่อไป' ขณะที่ตลาดแรงงานค่อยๆปรับตัวดีขึ้นและตัวเลขการใช้จ่ายภาคครัวเรือนยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่ก็ถูกจำกัดด้วยอัตราว่างงานที่อยู่ในระดับสูง นอกจากนี้ เฟดระบุว่าวิกฤตหนี้สาธารณะของยุโรปส่งผลให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นด้วย