นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บมจ.บีทีเอส กรุ๊ปโฮลดิ้ง (BTS) เปิดเผยว่า ในงวดปี 53/54 บริษัทยังคงเป้ารายได้เติบโต 8% แม้ช่วงชุมนุมทางการเมืองกระทบต่อรายได้บริษัทบ้าง เนื่องจากต้องหยุดให้บริการไประยะหนึ่งทำให้ปริมาณผู้โดยสารลดลงเล็กน้อย แต่เชื่อว่าผู้โดยสารกลับมาใช้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอสตามปกติหลังจากการชุมนุมยุติลง ดังนั้น จึงยังไม่ปรับเป้าการเติบโตของรายได้
ปัจจุบัน รถไฟฟ้า BTS มีปริมาณผู้โดยสารใช้บริการอยู่ที่ 4.5-4.8 แสนคน/เที่ยว/วัน ลดลงจากก่อนเหตุชุมนุมทางการเมืองที่มีปริมาณผู้โดยสารสูงสุดอยู่ที่ 5.7 แสนคน/เที่ยว/วัน ทั้งนี้ ส่วนหนึ่งมาจากยอดใช้บริการของนักท่องเที่ยวต่างประเทศหายไป จากปกติจะมีชาวต่างประเทศใช้บริการ 50,000 คน/วัน
นายคีรี กล่าวอีกว่า บริษัทได้จัดซื้อขบวนรถไฟฟ้าใหม่จำนวน 12 ขบวน คิดเป็นมูลค่า 70 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 2,300 ล้านบาท คาดว่าจะทำให้จำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 5-10% หลังจากนำมาให้บริการ แต่ยังไม่มีนโยบายที่จะพิจารณาปรับขึ้นค่าโดยสาร โดยรถไฟฟ้าทั้ง 12 ขบวนจะทยอยส่งมอบได้ครบทั้งหมดภายใน 30 มิ.ย.53 จากที่เริ่มรับมอบในวันนี้ 8 ขบวน หลังจากนั้นต้องใช้เวลาทดสอบการวิ่ง 4-6 เดือน ก่อนนำมาให้บริการเต็มรูปแบบ
รถไฟฟ้าใหม่ทั้ง 12 ขบวนจะนำมาวิ่งในเส้นทางสายสีลมทั้งหมด ซึ่งจะทำให้บริษัทมีรถไฟฟ้าเพิ่มขึ้นจาก 35 ขบวน เป็น 47 ขบวน จะส่งผลให้มีปริมาณผู้โดยสารมาใช้บริการรถไฟฟ้ามากขึ้น เนื่องจากมีความสะดวกมากขึ้น จากปัจจุบันที่มีจำนวนผู้โดยสารใช้บริการหนาแน่น ทำให้เกิดความไม่สะดวก
นายคีรี กล่าวว่า สำหรับ BTS หรือ บมจ.ธนายง(TYONG)เดิม คาดว่าในช่วงไตรมาส 1/53(เม.ย.-มิ.ย.53)ผลประกอบการบริษัทน่าจะพลิกกลับมาเป็นกำไร หลังได้เข้าซื้อกิจการรถไฟฟ้า จากไตรมาส 1/52 ที่มีผลประกอบการขาดทุน 51 ล้านบาท