ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับลงเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (25 มิ.ย.) อย่างไรก็ดี S&P 500 ดีดตัวตามหุ้นกลุ่มธนาคารที่ทะยานขึ้น เนื่องจากนักลงทุนรู้สึกเบาใจหลังจากที่สภาคองเกรสสามารถตกลงเรื่องกฎหมายปฏิรูปการเงินได้ในที่สุดและมีความผ่อนปรนมากกว่าที่หวั่นเกรงไว้ในตอนแรก ซึ่งข่าวดีสำหรับภาคการเงินดังกล่าวได้ช่วยชดเชยปัจจัยลบจากการที่กระทรวงพาณิชย์ปรับลดการขยายตัวของจีดีพีไตรมาสแรกลง
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวลงเล็กน้อย 8.99 จุด หรือ 0.09% ปิดที่ 10,143.81 จุด ดัชนี S&P 500 บวก 3.07 จุด หรือ 0.29% ปิดที่ 1,076.76 จุด และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 6.06 จุด หรือ 0.27% ปิดที่ 2,223.48 จุด
หุ้นกลุ่มการเงินเป็นแกนนำเดินหน้าขึ้นในการซื้อขายวันศุกร์ เมื่อสภาคองเกรสสหรัฐสามารถตกลงกันได้ในเรื่องการปฏิรูปการกำกับดูแลการเงินครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ยุค Great Depression หลังจากที่ได้มีการเจรจากันมานานหลายเดือน และกฎหมายดังกล่าวยังมีความเข้มงวดน้อยกว่าที่นักลงทุนหวาดวิตกในตอนแรก โดยคาดว่าสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะโหวตรับร่างกฎหมายนี้ในสัปดาห์หน้า ก่อนที่จะส่งให้ประธานาธิบดีบารัค โอบามาลงนามเพื่อใช้เป็นกฎหมายต่อไป
นอกจากปัจจัยบวกเรื่องกฎหมายยกเครื่องภาคการเงินที่ทำให้หุ้นกลุ่มธนาคารเดินหน้าขึ้นแล้ว ตลาดยังได้รับข่าวดีหลังจากที่มหาวิทยาลัยมิชิแกนเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นสุดท้าย เดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบสองปีที่ 76% ซึ่งดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 75.5
การปรับตัวขึ้นอย่างคึกคักของหุ้นกลุ่มธนาคารช่วยชดเชยปัจจัยลบที่ว่าเศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวในอัตราที่ช้าลงในไตรมาสแรก
ทั้งนี้ หุ้นปรับตัวลดลงในการซื้อขายช่วงแรก หลังกระทรวงพาณิชย์ได้ปรับทบทวนการประเมินการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาสแรกปีนี้ เป็น 2.7% ซึ่งเป็นการปรับทบทวนลงเป็นครั้งที่สอง หลังจากที่ประเมินครั้งแรกเมื่อเดือนเม.ย.ว่า จีดีพีไตรมาสแรกขยายตัว 3.2% จากนั้นปรับลดเป็นขยายตัว 3% ในการประเมินเดือนที่แล้ว โดยการปรับทบทวนลงในครั้งล่าสุดนี้เป็นผลมาจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคและการลงทุนในภาคธุรกิจที่ลดลงจากการประเมินสองครั้งก่อนหน้านี้
โดยปกติแล้วกระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยการประเมินจีดีพีไตรมาสละ 3 ครั้ง ซึ่งการทบทวนจีดีพีไตรมาส 1/2553 ในครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 3 แล้ว และกระทรวงฯมีกำหนดเปิดเผยการประเมินจีดีพีไตรมาส 2/2553 ครั้งแรกในวันที่ 30 ก.ค.นี้
หุ้นเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค พุ่ง 3.7% โกลด์แมน แซคส์ กรุ๊ป อิงค์ บวก 3.5% แบงก์ ออฟ อเมริกา คอร์ป บวก 2.7% ซิตี้กรุ๊ปพุ่ง 4.2%
นักวิเคราะห์กล่าวว่า การอนุมัติร่างกฎหมายปฏิรูปการเงินโดยสภาคองเกรสทำให้สิ่งที่ยังคลุมเครือก่อนหน้านี้ มีความชัดเจนมากขึ้น ส่งผลให้นักลงทุนมั่นใจขึ้นและกลับเข้ามาเป็นผู้ซื้อในตลาด
หุ้นนิวมอนท์ ไมนิ่ง คอร์ป บวก 4.6% หลังจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ดีดตัวสูงขึ้นเพราะเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง
หุ้นออราเคิล คอร์ป บวก 1.7% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลกำไรไตรมาสสี่ที่สูงกว่าคาดการณ์ เนื่องจากยอดขายซอฟท์แวร์ใหม่ที่แข็งแกร่ง