บทวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟาร์อีสท์ ระบุว่า ตั้งข้อสังเกตว่าการทำประชาพิจารณ์ร่างประกาศฯ 3.9G เมื่อวันศุกร์ที่ 25 มิ.ย. ที่ผ่านมานั้น มีข้อโต้แย้งจากฝ่ายต่างๆ น้อยลงเทียบกับการทำประชาพิจารณ์ 3G ครั้งก่อน ซึ่งถือเป็นเรื่องดี
ข้อโต้แย้งในครั้งนี้ส่วนใหญ่จะเป็นประเด็นในปลีกย่อยมากกว่า เช่น ฝ่ายเอกชนโต้แย้งในประเด็นเรื่องของจำนวนผู้เข้าประมูลและใบอนุญาต (N-1) และมูลค่าตั้งต้น (10,000 ล้านบาท) รวมถึงอายุของสัมปทาน (15 ปี) ขณะที่ครั้งก่อนได้มีข้อโต้แย้งในประเด็นหลักในเรื่องของอำนาจ กทช. โดยรวมแล้วถือเป็นบวกต่อกลุ่มสื่อสาร
อนึ่ง กลุ่มนี้เลือก DTAC เป็น Top Pick โดยแนะนำ“ซื้อ"อิงมูลค่าเหมาะสม 45 บาท
ล่าสุด 25 มิ.ย.53 ราคาหุ้น DTAC อยู่ที่ 36.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท(+0.69%)มูลค่าซื้อขาย 81.20 ล้านบาท
ขณะที่บทวิเคราะห์ บล.เกียรตินาคิน ระบุว่า มีมุมมอง“บวก"ต่อแนวทางสู่การเปิดประมูลคลื่น-ออกใบอนุญาต 3G ที่มีความคืบหน้าตามลำดับ อย่างไรก็ตาม ยังต้องรอดูความชัดเจนของหลักเกณฑ์ดังกล่าวจาก กทช. อีกครั้ง โดยเฉพาะการปรับสูตรวิธีการให้ใบอนุญาต และราคาประมูลเริ่มต้น ซึ่งตามกำหนด กทช. จะประกาศเป็นกฎหมายประมาณกลางเดือน ก.ค.
ทั้งนี้ ยังให้น้ำหนักการออกใบอนุญาตใหม่จะเกิดขึ้นเร็วสุดปลายปีนี้ - ต้นปีหน้า ขณะที่ประโยชน์จากโครงสร้างต้นทุนบนใบอนุญาตใหม่ จะเกิดขึ้นในปีถัดไปนับจากปีที่ผู้ให้บริการได้รับใบอนุญาต
ตามปัจจัยพื้นฐานของบริษัทผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ ยังเลือก ADVANC เป็น Top-pick อันดับ 1 มูลค่าเหมาะสมไม่รวม 3G = 102 บาท และ DTAC เป็นอันดับ 2 (มูลค่าเหมาะสมไม่รวม 3G = 39 บาท) เนื่องจากทั้ง 2 บริษัทมีจุดเด่นฐานะการเงินพร้อมต่อการลงทุนใหม่ อีกทั้ง ADVANC ได้เปรียบกว่า DTAC ด้านบริการ non voice ซึ่งจะเป็นบวกต่อการสร้างฐานลูกค้าและรายได้บนใบอนุญาตใหม่
สำหรับ True move มูลค่าเหมาะสมไม่รวม 3G = 2.80 บาท มีความเสียเปรียบด้านฐานะการเงิน และมีจุดอ่อนเงินลงทุนจำกัดจากภาระหนี้สูง ทำให้ประเด็นเรื่องพันธมิตรร่วมทุน จะเป็นทางออกในการลงทุนใหม่ของกลุ่ม TRUE