หุ้น LPN บวก 1.17% มาอยู่ที่ 8.65 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท มูลค่าซื้อขาย 11.56 ล้านบาท เมื่อเวลา 11.48 น. โดยเปิดตลาดที่ 8.70 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 8.70 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 8.60 บาท
บมจ.แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ (LPN) เปิดเผยว่า บริษัทปิดการขายโครงการลุมพินี คอนโดทาวน์ รามอินทรา-นวมินทร์ อาคาร D เฟสสุดท้าย จำนวน 690 ยูนิต 550 ล้านบาท เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา มั่นใจว่าการที่ลูกค้าตัดสินใจซื้อเพราะต้องการบ้านพร้อมคุณภาพชีวิตที่ดี
นอกจากนี้ บริษัทได้จัดกิจกรรมทางการตลาดต่อเนื่องด้วยการมอบโชคฉลองครบรอบ 21 ปี เอาใจผู้ที่ต้องการมีบ้านหลังแรกง่ายขึ้นใน “6 X-TRA แคมเปญสุดคุ้ม" วันนี้-สิ้นเดือน ก.ค.53 เพียงเลือกช้อปคอนโด LPN ใน 6 โครงการคุณภาพ
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.บัวหลวง ระบุว่า ความสำเร็จของการเปิดตัวโครงการลุมพินี คอนโดทาวน์ รามอินทรา-นวมินทร์ อาคาร D(LDR อาคาร D) เป็นไปตามที่ผู้บริหารคาดการณ์ไว้ จะเริ่มรับรู้เป็นรายได้ในไตรมาส 1/54 โดยยอดจองซื้อ 550 ล้านบาทจะช่วยรับประกับรายได้ของปี 54 อีก 5% ซึ่งก็หมายความว่า 85% ของรายได้ปี 54 ได้ถูกรับรองแล้ว LPN แนะว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะเป็น 25-26% ซึ่งเป็นอัตราปกติของแบรนด์คอนโดทาวน์ ซึ่งเป็นคอนโดที่ราคาถูกสุดของบริษัท
โครงการต่อไปที่จะเปิดตัวได้แก่ โครงการลุมพินี พระราม 9 เฟส 2 มูลค่า 2.6 พันล้านบาท ซึ่งจะเปิดตัวในวันที่ 17 ก.ค.ซึ่งหากบริษัทรายงานอัตราจองซื้อที่ 66% (คิดเป็นยอดจองซื้อ 1.7 พันล้านบาท) ประมาณการกำไรปี 54 จะรับรู้แน่นอนเต็มจำนวน
บล.บัวหลวง คาดว่าตลาดจะตอบรับเชิงบวกต่อการเปิดตัวที่ประสบความสำเร็จของอาคาร D ปัจจัยผลักดันต่อไปคือการคาดการณ์ว่า LPN จะรายงานกำไรแข็งแกร่งที่สุดในกลุ่มในไตรมาส 2/53 และมีแนวโน้มที่จะรายงานยอดจองซื้อทำสถิติสูงสุดใหม่ในไตรมาส 3/53(เปิดตัวอีก 2 โครงการได้แก่ลุมพินี พระราม 9 เฟส 2 มูลค่า 2.6 พันล้านบาท จะเปิดตัวในวันที่ 17 ก.ค.และโครงการลุมพินี พระราม 3-ริเวอร์ไซด์ มูลค่า 5 พันล้านบาทจะเปิดตัวในปลายเดือนก.ย.)
ปัจจุบัน LPN มีแนวโน้มกำไรปี 54 ดีที่สุดในกลุ่ม มูลค่าหุ้นค่อนข้างถูกที่ PER ปี 54 ที่ 7.2 เท่า (ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยที่ 7.6 เท่า) เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ" ที่ราคาเป้าหมายปี 54 ที่ 10 บาท คิดตามเป้าหมาย PER ที่ 8.4 เท่าสูงกว่าค่าเฉลี่ยปี 48-52 อยู่ 10%