ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กแรงขายหุ้นพลังงาน ถ่วงดาวโจนส์ปิดลบ 5.29 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday June 29, 2010 06:46 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับเมื่อคืนนี้ (28 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มผู้ผลิตโลหะพื้นฐาน หลังจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลง ขณะที่หุ้นกลุ่มค้าปลีกร่วงลงหลังจากมีข้อมูลบ่งชี้ว่าผู้บริโภคในสหรัฐมีอัตราการออมสูงสุดในรอบ 8 เดือน อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวลงเพียงเล็กน้อยเพราะได้แรงหนุนหลังจากทางการสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นเกินคาด นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูรายงานตัวเลขจ้างงานประจำเดือนมิ.ย.ที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยในวันศุกร์นี้

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดลบ 5.29 จุด หรือ 0.05% แตะที่ 10,138.52 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดลบ 2.19 จุด หรือ 0.20% แตะที่ 1,074.57 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดลบ 2.83 จุด หรือ 0.13% แตะที่ 2,220.65 จุด

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 7.08 พันล้านหุ้น ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ราว 9.65 พันล้านหุ้น

หุ้นกลุ่มพลังงานถูกเทขายหลังจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น ซึ่งส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ปรับตัวลง 16 เซนต์ แตะที่ 78.25 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อคืนนี้ และได้ฉุดหุ้นเอ็กซอนโมบิลร่วงลง 1.1% หุ้นฟรีพอร์ท-แมคมอร์แกน คอปเปอร์ แอนด์ โกลด์ ดิ่งลง 2.9%

อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวลงไม่มากนักเพราะตลาดได้แรงหนุนหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงาว่า ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคเดือนพ.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.2% ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ ขณะที่รายได้ส่วนบุคคลเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 0.4% และอัตราการออมของผู้บริโภคพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 8 เดือน

ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคเป็นหนึ่งในข้อมูลที่นักลงทุนให้ความสำคัญมากที่สุด เพราะตัวเลขดังกล่าวคิดเป็นร้อยละ 70 ของกิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยรวมของสหรัฐ และเป็นกลไกสำคัญในการผลักดันเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวอย่างยั่งยืน อย่างไรก็ตาม อัตราการออมของผู้บริโภคชาวสหรัฐที่พุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 8 เดือนสะท้อนให้เห็นว่า ผู้บริโภคเพิ่มความระมัดระวังในการใช้จ่าย ซึ่งข้อมูลดังกล่าวได้ฉุดหุ้นกลุ่มค้าปลีกร่วงลงเมื่อคืนนี้ด้วย โดยหุ้นเมซี อิงค์ ปิดร่วง 1% หุ้น Amazon.com ปิดลบ 2.6% และหุ้นโฮม ดีโปท์ ปิดร่วง 2%

หุ้นกลุ่มผู้ผลิตบุหรี่ดีดตัวขึ้นหลังจากศาลสหรัฐไม่ประทับรับฟ้องคดีความระหว่างรัฐบาลสหรัฐและกลุ่มผู้ผลิตบุหรี่ ซึ่งการตัดสินใจของศาลทำให้รัฐบาลไม่สามารถเรียกเก็บเงินตามโครงการต่อต้านการสูบบุหรี่มูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์จากกลุ่มผู้ผลิตบุหรี่ได้ ทั้งนี้ ข่าวดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นเรโนลด์ อเมริกัน อิงค์ ปิดพุ่ง 4.1% หุ้นอัลเทรีย กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของฟิลิป มอร์ริส ยูเอสเอ ปิดพุ่ง 3.3%

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันอังคาร สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์จะเปิดเผยราคาบ้านเดือนเม.ย. และสำนักงานคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด จะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเดือนมิ.ย. วันพุธ ADP Employer Services จะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานทั่วประเทศเดือนมิ.ย. สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) จะเปิดเผยดัชนีภาวะธุรกิจนิวยอร์คซิตี้เดือนมิ.ย. และสมาคมผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อแห่งชาติ (NAPM) จะเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ชิคาโกเดือนมิ.ย.

วันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ สถาบัน ISM จะเปิดเผยดัชนีภาคการผลิตเดือนมิ.ย. และสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติเปิดเผยยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนพ.ค.

ส่วนวันศุกร์ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมิ.ย. โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ในวอลล์สตรีทคาดว่า ตัวเลขจ้างงานเดือนมิ.ย.จะลดลง 110,000 ตำแหน่ง เนื่องจากการจ้างพนักงานชั่วคราวของภาครัฐในส่วนของงานสำมะโนประชากรมีแนวโน้มปรับตัวลดลง และคาดว่าอัตราว่างงานเดือนมิ.ย.จะพุ่งขึ้นแตะระดับ 9.7%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ