นายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน บมจ.ปตท.(PTT)กล่าวถึงการที่ Moody’s Investor Services ประกาศปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือสกุลเงินบาท(Local Currency Issuer Rating) และอันดับความน่าเชื่อถือตราสารหนี้ระยะยาวสกุลต่างประเทศ (Foreign Currency Bond Rating)ของ PTT จากระดับ A2 สู่ระดับ A3 ว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อจิตวิทยาของนักลงทุนหรือมีผลกระทบน้อย
เนื่องจากอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ A3 นั้น ยังคงสูงกว่าอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทย ณ ปัจจุบันที่ระดับ Baa1 และเป็นระดับที่สูงกว่าระดับความน่าเชื่อถือขั้นต่ำสุดของตราสารที่สามารถลงทุนได้ (Investment Grade-Baa3) ถึง 4 ระดับ (notches)
นอกจากนี้ คาดว่าผลกระทบในเชิงต้นทุนทางการเงินนั้นน่าจะอยู่ในวงจำกัด เนื่องจากต้นทุนการจัดหาเงินทุนยังคงขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆ อาทิเช่น ภาวะตลาดในเวลานั้น ๆ อันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทที่เทียบเคียงได้ในตลาด รวมถึงแนวโน้มผลประกอบการ และการเติบโตของตัวบริษัทด้วย ซึ่งในกรณี ปตท.ได้มีการพิจารณาถึงผลตอบแทนและความเสี่ยงจากการลงทุนอย่างรอบคอบแล้ว การขยายลงทุนนี้คาดว่าจะทำให้ ปตท.มีการเติบโตและมีกำไรเพิ่มขึ้นในอนาคต
นายเทวินทร์ กล่าวว่า ล่าสุด Fitch Rating ได้ประกาศคงอันดับความเชื่อถือภายในประเทศของ ปตท. และอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้ระยะยาวสกุลบาทภายในประเทศที่ระดับ AAA ซึ่งเป็นระดับความน่าเชื่อถือที่สูงสุด ดังนั้น ต้นทุนทางการเงินของ ปตท. โดยเฉพาะในการจัดหาเงินทุนภายในประเทศนั้นน่าจะไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ในครั้งนี้