ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กวิตกแนวโน้มเศรษฐกิจโลก ฉุดดาวโจนส์ปิดร่วง 268.22 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday June 30, 2010 06:52 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้ (29 มิ.ย.) หลังจากมีข้อมูลจากหลายประเทศที่บ่งชี้ถึงการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ รวมถึงดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนเม.ย.ของจีนที่ขยายตัวในอัตราที่น้อยที่สุดในรอบ 5 เดือน และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐที่ร่วงลงในเดือนพ.ค. ซึ่งข้อมูลดังกล่าวทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ร่วงลง 268.22 จุด หรือ 2.65% ปิดที่ 9,870.30 จุด ดัชนี S&P 500 ลดลง 33.33 จุด หรือ 3.10% ปิดที่ 1,041.24 จุด และดัชนี Nasdaq ดิ่งลง 85.47 จุด หรือ 3.85% ปิดที่ 2,135.18 จุด

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 1.138 หมื่นล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 2,831 ต่อ 259 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ราว 9.65 พันล้านหุ้น

กระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่นอนของเศรษฐกิจโลกทำให้นักลงทุนกระหน่ำขายหุ้นอย่างหนัก หลังจากสหรัฐ จีน และญี่ปุ่นรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ โดยเมื่อวานนี้สำนักงานคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด ซึ่งเป็นองค์กรวิจัยเอกชนของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนเม.ย.ของจีนขยับตัวขึ้นเพียง 0.3% ซึ่งเป็นระดับที่เพิ่มขึ้นน้อยที่สุดในรอบ 5 เดือน และน้อยกว่าเดือนมี.ค.ที่พุ่งขึ้น 1.7% ซึ่งบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจจีนผ่านพ้นจุดสูงสุงของการขยายตัวมาแล้วหลังจากช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ที่จีนมียอดผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) เพิ่มขึ้น 11.9% ขณะที่ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิต ตลาดหุ้นจีนร่วงลงหนักสุดในรอบกว่า 1 เดือน หลังจากที่ธนาคารกลางจีนเริ่มใช้นโยบายควบคุมสภาพคล่อง

การชะลอตัวทางเศรษฐกิจจีนเป็นผลมาจากการที่รัฐบาลออกนโยบายคุมเข้มในภาคอสังหาริมทรัพย์เพื่อสกัดกั้นการเก็งกำไรและป้องกันการเกิดภาวะฟองสบู่หลังจากที่ยอดการปล่อยเงินกู้ของจีนพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อปีที่ผ่านมา โดยรัฐบาลจีนภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีเหวิน เจียเป่า ตั้งเป้าควบคุมยอดการปล่อยเงินกู้ล็อตใหม่ไว้ที่ระดับ 7.5 ล้านล้านหยวน จากระดับ 9.59 ล้านล้านหยวนในปีที่แล้ว

ขณะเดียวกัน สำนักงานคอนเฟอเรนซ์ บอร์ดรายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ค.ของสหรัฐร่วงลงมาอยู่ที่ระดับ 52.9 จุด ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน จากเดือนพ.ค.ที่ระดับ 62.7 จุด

นอกจากนี้ ทางการญี่ปุ่นเปิดเผยว่าอัตราว่างงานเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 5.2% จากเดือนเม.ย.ที่ระดับ 5.1% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 ขณะที่ตัวเลขการใช้จ่ายภาคครัวเรือนโดยเฉลี่ยของญี่ปุ่นในเดือนพ.ค.ปรับตัวลดลง 0.7% จากปีที่แล้ว มาอยู่ที่ระดับ 280,714 เยน ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 ส่วนรายได้ต่อเดือนในภาคครัวเรือนโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 421,413 เยน ลดลง 2.4%

ความวิตกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลกส่งผลให้นักลงทุนกระหน่ำขายหุ้นอุตสาหกรรม รวมถึงหุ้นผู้ผลิตเครื่องบินรายใหญ่อย่างโบอิ้งที่ปิดร่วงลง 6.3% และหุ้นแคทเทอร์พิลลาร์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องมือสำหรับการก่อสร้าง ปิดร่วงลง 5.5%

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันพุธ ADP Employer Services จะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานทั่วประเทศเดือนมิ.ย. สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) จะเปิดเผยดัชนีภาวะธุรกิจนิวยอร์คซิตี้เดือนมิ.ย. และสมาคมผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อแห่งชาติ (NAPM) จะเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ชิคาโกเดือนมิ.ย.

วันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ สถาบัน ISM จะเปิดเผยดัชนีภาคการผลิตเดือนมิ.ย. และสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติเปิดเผยยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนพ.ค.

ส่วนวันศุกร์ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมิ.ย. โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ในวอลล์สตรีทคาดว่า ตัวเลขจ้างงานเดือนมิ.ย.จะลดลง 110,000 ตำแหน่ง เนื่องจากการจ้างพนักงานชั่วคราวของภาครัฐในส่วนของงานสำมะโนประชากรมีแนวโน้มปรับตัวลดลง และคาดว่าอัตราว่างงานเดือนมิ.ย.จะพุ่งขึ้นแตะระดับ 9.7%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ