นักวิเคราะห์ฯคาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลดลงตามตลาดหุ้นต่างประเทศทั้งยุโรปและสหรัฐ เช่นเดียวกับตลาดภูมิภาคที่เปิดลบในช่วงเช้าวันนี้ จากปัจจัยต่างประเทศเรื่องหุ้นไอพีโอขนาดใหญ่ของจีน หนี้ยุโรป และตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐออกมาไม่ดี พร้อมให้แนวรับ 780-792 จุด แนวต้าน 811 จุด แนะนักลงทุนเล่นหุ้นตัวเล็กแทนหุ้นตัวใหญ่
นายเจริญ เอี่ยมพัฒนธรรม ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.เคที ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวลดลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นต่างประเทศ ทั้งตลาดหุ้นยุโรปและสหรัฐที่ปรับตัวลงมาค่อนข้างแรง จากความกังวลเรื่องการคืนหนี้ของสถาบันการเงินยุโรป และธนาคาร Agricultural Bank (AgBank)ของจีนจะมีการระดมทุนด้วยการขาย IPO ในสัปดาห์หน้า ทำให้มีความกังวลเรื่องภาพรวมสภาพคล่อง รวมทั้ง การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐออกมาไม่ดีนักมีสลับบวกลบ
ทั้งนี้ ตลาดหุ้นในเอเชียเช้านี้เปิดมาต่างติดลบกันถ้วนหน้า ทั้งตลาดหุ้นญี่ปุ่น ฮ่องกง ไต้หวัน และเกาหลี ดังนั้น คงจะส่งผลต่อ Sentiment การลงทุนบ้านเราบ้างไม่มากก็น้อย
อย่างไรก็ตาม วานนี้ตลาดหุ้นไทยปรับลดลงยังไม่มากนัก ดัชนีใกล้เคียงระดับ 800 จุด โดยนักลงทุนหันมาสนใจหุ้นขนาดเล็กและมีแรงเทขายหุ้นใหญ่ ซึ่งวันนี้คาดว่าจะเป็นรูปแบบเดิม คือ เน้นการลงทุนในหุ้นขนาดเล็ก ที่มีผลประกอบการดี ทั้งนี้ มองว่าปัจจัยต่างประเทศแม้ว่าจะไม่เกี่ยวกับตลาดหุ้นบ้านเรามากนัก แต่คงมีผลด้านจิตวิทยาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
กรอบการลงทุนให้แนวรับ 780-792 และแนวต้าน 811 จุด ไม่ควรหลุด 780 จุด ไม่เช่นนั้นจะหลุดยาว
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อวานนี้(29 มิ.ย.)ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 9,870.30 จุด ร่วงลง 268.22 จุด (-2.65%)เอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,041.24 จุด ลดลง 33.33 จุด(-3.10%) ดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 2,135.18 จุด ร่วง 85.47 จุด
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 411.53 ล้านบาทเมื่อวานนี้
- ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนส.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการวานนี้ร่วงแรงปิดที่ 75.94 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 2.31 ดอลลาร์ หรือ 3%
- หุ้นดิ่งลงทั่วโลก จากความวิตกเรื่องปัญหาหนี้ของยูโรโซน และความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจสหรัฐจะเกิดภาวะถดถอยซ้ำซ้อน โดยล่าสุดดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน มิ.ย. ร่วงสู่ 52.9 ต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ 62.0
- ครม.ไฟเขียว ต่อมาตรการลดค่าครองชีพประชาชนต่ออีก 6 เดือน ทั้งขึ้นรถเมล์ รถไฟ-ใช้ไฟฟ้าฟรี เริ่ม 1 ก.ค.ไปจนถึงสิ้นปีนี้ พร้อมตรึงราคาก๊าซแอลพีจี-เอ็นจีวี ต่อไปจนถึงสิ้นเดือนก.พ. 54 อุดหนุนกว่า 9 พันล้านบาท
- คลังปรับประมาณการจีดีพีเพิ่มอีก 1% จาก 4-5% เป็น 5-6% หลังเศรษฐกิจไตรมาสแรกขยายตัวสูงถึง 12% และประเมินเศรษฐกิจไตรมาสสองขยายตัวได้ 5.6% ส่งออกขยายตัวต่อเนื่อง ประเมินอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่จะปรับขึ้นอีกประมาณ 0.50%
- ครม.มีมติตั้งคณะกรรมการปฏิรูปประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ให้ "อานันท์" นั่งแท่นประธานคณะกรรมการปฏิรูป ส่วน "หมอประเวศ" เป็นประธานสมัชชาปฏิรูป ทุ่มงบฯ 600 ล้านบาท ให้เวลาทำงาน 3 ปี ศอฉ.เลื่อนชี้ขาดต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
- คลังเบรกประมูล 3.9จี ตั้งข้อสงสัยกทช.ไร้อำนาจ หวั่นโดนเอกชนฟ้องร้อง สคร.ร่อนหนังสือถึง กทช.ให้ชะลอการประมูลใบอนุญาต 3.9จีในเดือนกันยายนนี้ออกไปก่อน ระบุการประมูลควรเข้า พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ พร้อมตั้งข้อสังเกตถึงอำนาจของ กทช.ในการออกใบอนุญาต ค้านออกใบอนุญาตรวดเดียว 3 ใบ