นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เปิดเผยว่า ในเดือน ก.ค.53 กบข. จะเปิดโอกาสให้สมาชิกได้เลือกแผนการลงทุนด้วยตัวเอง ภายใต้แนวคิด "เราเลือกได้" โดยสมาชิกสามารถเลือกแผนการลงทุนตามจังหวะชีวิตของตัวเอง โดยพิจารณาตามระดับความเสี่ยง และระดับการรับผลตอบแทนมี 4 แผนการลงทุน ให้ได้เลือก ประกอบด้วย
1.แผนตลาดเงิน ลงทุนเฉพาะตราสารหนี้ระยะสั้น ความเสี่ยงต่ำสุด โอกาสสร้างผลตอบแทนน้อยสุด
2.แผนตราสารหนี้ ลงทุนตราสารหนี้ระยะสั้นและระยะยาว ความเสี่ยงและโอกาสสร้างผลตอบแทนมากกว่าแผนตลาดเงินเล็กน้อย
3.แผนหลัก ลงทุนปัจจัยของกบข. ลงทุนในตราสารหนี้ ตราสารทุน และอสังหาริมทรัพย์ ความเสี่ยงและโอกาสสร้างผลตอบแทนระดับปานกลาง
4. แผนผสมหุ้นทวี ลงทุนในตราสารทุน ตราสารหนี้ และอสังหาริมทรัพย์ เช่นเดียวกับแผนหลักแต่มีสัดส่วนของตราสารทุนมากกว่า เหมาะสำหรับผู้ชอบความเสี่ยง และมีระยะเวลาการออมอีกนาน
ทั้งนี้ สำหรับการเลือกแผนลงทุนดังกล่าว จะไม่มีการบังคับสมาชิก กบข. ที่ไม่ประสงค์เลือกแผนการลงทุน โดยกบข.จะบริหารเงินในแผนหลักที่เน้นการลงทุนในหลักทรัพย์มั่นคงกว่า 60% และมีความเสี่ยงระดับปานกลาง
สำหรับการลงทุนของ กบข. ในปี 52 ที่ผ่านมาว่า สามารถจ่ายปันผลตอบแทนการลงทุนที่จัดสรรให้กับสมาชิกรายบุคคล (หลังหักค่าใช้จ่าย) ถึง 8.92% อันเป็นผลมาจากภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวได้ดี ส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกและตลาดไทยฟื้นตัว ประกอบกับการพัฒนาการบริหารและการลงทุนของ กบข. โดยมีสัดส่วนการลงทุนในต่างประเทศอยู่ที่ 14.14% (ตราสารหนี้ต่างประเทศ 4.20% ตราสารทุนต่างประเทศ 9.94%)
และในปีนี้ผลตอบแทนการลงทุนที่จัดสรรให้กับสมาชิกรายบุคคล (หลังหักค่าใช้จ่าย) ช่วงไตรมาส 1/53 อยู่ที่ 2.20% โดยมีสัดส่วนการลงทุนในต่างประเทศที่ 14.07% (ตราสารทุนต่างประเทศ 9.89% ตราสารหนี้ต่างประเทศ 4.18%)
ปลัดกระทรวงการคลัง ยังกล่าวต่ออีกว่า ในการดำเนินงานของกบข.นั้น จุดมุ่งหมายสำคัญคือการยึดประโยชน์ของสมาชิกเป็นสำคัญ มีการสื่อสารและความเข้าใจอันดีระหว่างสมาชิก และ กบข. นอกจากนั้น ในส่วนของสวัสดิการสมาชิกได้กำหนดนโยบายในการสร้างความสุข ลดรายจ่าย สร้างรายได้โดยใช้คอนเซ็ปท์ “โชว์บัตร รับสิทธิ์" ด้วยบัตรกบข. 1บัตรประหยัดทั่วไทย