พบรายการบิ๊กล็อตหุ้น IHL 4 รายการ จำนวน 13,798,700 หุ้น มูลค่าซื้อขาย 82.79 ล้านบาท เทรดในราคาเฉลี่ยหุ้นละ 6 บาท
ขณะที่หุ้น IHL บนกระดานเทรดหลักอยู่ที่ 6.90 บาท ลดลง 0.05 บาท(-0.72%)มูลค่าซื้อขาย 342.00 ล้านบาท เมื่อเวลา 15.50 น. โดยเปิดตลาดที่ 7.05 บาท ราคาปรับตัวสูงสุด 7.15 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 6.85 บาท
แหล่งข่าวจากวงโบรกเกอร์ เปิดเผยว่า รายการบิ๊กล็อตหุ้น บมจ.อินเตอร์ไฮด์ (IHL)จำนวน 13.80 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 4.6% ของทุนชำระแล้วที่มี 300 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท คาดว่าเป็นการทำดีลของธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยขายให้กับนักลงทุนรายใหญ่
นายองอาจ ดำรงค์สกุลวงษ์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ IHL เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า ไม่ทราบที่มาที่ไปของรายการบิ๊กล็อตที่เกิดขึ้นเช้านี้ ซึ่งตนเองก็ไม่ได้เป็นคนทำดีลนี้ด้วย
"บิ๊กล็อตหุ้น IHL เช้านี้ ผมไม่ทราบใครทำ และผมก็ไม่ได้ทำด้วย ตั้งแต่หุ้นเข้าตลาดฯผมไม่เคยควักออกไปขายเลย มีแต่ซื้อเข้ามาให้กับลูกชายคนโตให้เก็บไว้บ้าง เพราะถือไว้ก็ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าเงินฝาก"นายองอาจ กล่าว
โครงสร้างผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ IHL ล่าสุดเมื่อ 8 เม.ย.53 ประกอบด้วย นายองอาจ ดำรงสกุลวงษ์ ถือหุ้น 36.32%, น.ส.ชุติมา บุษยโภคะ ถือหุ้น 25.2%, นายฉาย บุนนาค ถือหุ้น 5.95%
อนึ่ง เช้านี้ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)เปิดเผยแบบรายงาน 246-2 ว่านายฉาย รายงานการจำหน่ายหุ้น IHL เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.53 สัดส่วน 2.0% คงเหลือถือหุ้น 3.29%
นายองอาจ กล่าวต่อว่า ผลประกอบการของบริษัทงวดไตรมาส 2/53 คาดว่ากำไรจะเติบโต 2-3 เท่าจากงวดเดียวกับของปีก่อนที่มีกำไร 18 ล้านบาท แต่คงจะไม่ดีเท่ากับงวดไตรมาส 1/53 ที่มีกำไร 114 ล้านบาท เนื่องจากในไตรมาส 2/53 มีวันหยุดทำงานมาก ทั้งช่วงสงกรานต์ที่มีวันหยุดระยะยาวและยังมีผลกระทบจากปัจจัยการเมืองอีก ทำให้วันทำงานจริงน้อยลง
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ธุรกิจของบริษัทฯมีการเติบโตที่ดีตามการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งตอนนี้บริษัทก็กำลังดีลกับลูกค้ารายใหม่อยู่หลายราย โดยในไตรมาส 3/53 คำสั่งซื้อที่เข้ามาเต็มกำลังการผลิตแล้ว เพียงแต่หวังว่าจะไม่มีปัจจัยการเมืองเข้ามาส่งผลกระทบอีก
"ไตรมาส 3/53 บริษัทฯมีออเดอร์เต็มกำลังการผลิตแล้ว แต่เราก็หวังว่าจะไม่มีกีฬาสี(ปัจจัยการเมือง)เข้ามาเกี่ยวข้องอีก ซึ่งในไตรมาส 3/53 ไม่ค่อยจะมีวันหยุดเท่าไร เราคงจะทำงานกันได้อย่างเต็มที่"ประธานกรรมการบริหาร กล่าว
สำหรับแผนการขยายตลาดส่งออกไปที่ยุโรป ขณะนี้ในแง่ของคุณภาพได้รับการยอมรับจากลูกค้าที่เยอรมันแล้ว คาดว่าออเดอร์จากลูกค้าเยอรมันน่าจะได้เห็นในปี 54 เพราะทางบริษัทฯจะต้องตรวจสอบความพร้อมในการรับงานจากลูกค้ารายนี้ก่อน อีกทั้งต้องหาข้อมูลค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง อย่างเช่น ค่าใช้จ่ายในการจัดส่งสินค้าให้กับลูกค้ารายนี้ด้วย