ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ร่วง 96.28 จุด หลัง ADP เผยภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มการจ้างงานน้อยกว่าคาด

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday July 1, 2010 06:46 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (30 มิ.ย.) หลังจาก ADP Employer Services ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยด้านตลาดแรงงานในสหรัฐเปิดเผยว่า ภาคเอกชนทั่วประเทศเพิ่มการจ้างงานเพียงเล็กน้อย ขณะที่สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) รายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ในเขตชิคาโกร่วงลง ซึ่งข้อมูลดังกล่าวทำให้นักลงทุนไม่มั่นใจในแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดร่วง 96.28 จุด หรือ 0.98% แตะที่ 9,774.02 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดลบ 10.53 จุด หรือ 1.01% แตะที่ 1,030.71 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดลบ 25.94 จุด หรือ 1.21% แตะที่ 2,109.24 จุด

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 9.21 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในอัตราส่วน 1,907 ต่อ 1,108 หุ้น ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ราว 9.65 พันล้านหุ้น

ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงหลังจาก ADP Employer Services รายงานว่าภาคเอกชนทั่วประเทศเพิ่มการจ้างงานเพียง 13,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะพุ่งขึ้น 60,000 ตำแหน่ง และน้อยกว่าเดือนพ.ค.ที่เพิ่มขึ้น 57,000 ตำแหน่ง

ขณะที่ ISM รายงานว่า ดัชนี PMI ในเขตชิคาโกร่วงลงสู่ระดับ 59.1 จุดในเดือนมิ.ย. จากเดือนพ.ค.ที่ระดับ 59.7 จุด ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ส่งผลให้นักลงทุนขาดความเชื่อมั่นในการซื้อขายและไม่มั่นใจในแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ แม้มีข้อมูลบ่งชี้ว่า กิจกรรมทางธุรกิจเขตมิดเวสต์ขยายตัวมากเกินคาดในเดือนมิ.ย.ก็ตาม

นักวิเคราะห์กล่าวว่า การร่วงลงอย่างหนักของตลาดหุ้นทำให้นักลงทุนแห่เข้าซื้อพันธบัตรและตราสารหนี้ของสหรัฐเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรร่วงลง โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี อยู่ที่ระดับ 4% นอกจากนี้ การที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงในวันสุดท้ายของไตรมาส 2 ทำให้นักลงทุนขาดความเชื่อมั่นและคาดการณ์ว่าสถานการณ์การซื้อขายในไตรมาสที่ 3 อาจย่ำแย่กว่าที่คิด เมื่อพิจารณาจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ

การรายงานตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนของ ADP Employer Services มีขึ้นก่อนที่กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (nonfarm payroll) เดือนมิ.ย.ในวันศุกร์นี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ในวอลล์สตรีทคาดว่าตัวเลขจ้างงานเดือนมิ.ย.จะร่วง 110,000 ตำแหน่ง เนื่องจากการจ้างพนักงานชั่วคราวของภาครัฐในส่วนของงานสำมะโนประชากรนั้น มีแนวโน้มปรับตัวลดลง และคาดว่าอัตราว่างงานเดือนมิ.ย.จะอยู่ที่ระดับ 9.7%

นอกเหนือจากตัวเลขจ้างงานแล้ว นักลงทุนยังจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจอื่นๆที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ด้วย โดยวันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ สถาบัน ISM จะเปิดเผยดัชนีภาคการผลิตเดือนมิ.ย. และสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติเปิดเผยยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนพ.ค.

ส่วนวันศุกร์ กระทรวงแรงงานจะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมิ.ย. และกระทรวงพาณิชย์จะเปิดเผยยอดสั่งซื้อของโรงงานทั่วประเทศประจำเดือนพ.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ