โบรกฯคาดกลุ่มเทเลคอมครึ่งปีหลังโตตาม GDP-ลุ้นประมูล 3G ได้สร้าง upside

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday July 5, 2010 11:41 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักวิเคราะห์ประเมินอุตสาหกรรมโทรคมนาคมครึ่งปีหลังยังคงโตได้ ตามอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ(จีดีพี) เชื่อว่าจะไม่มีภาพการเติบโตอย่างหวือหวาอีกต่อไป หลังจากอัตราการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ของประเทศไทยสูงกว่า 100% ไปแล้ว แต่การเติบโตจะหันมาที่ด้านบริการข้อมูลและอินเทอร์เน็ตบนมือถือที่แนวโน้มการใช้งานสูงขึ้นมากตามกระแสความนิยมในสมาร์ทโฟนและโซเชียลเน็ตเวิร์ค ขณะที่ผู้ประกอบการเน้นควบคุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายเพื่อผลักดันกำไร

นอกจากนั้น การเปิดประมูลใบอนุญาตเทคโนโลยี 3G ที่เริ่มเห็นความชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ ว่าน่าจะทำได้ภายในปลายปีนี้จะส่งผลดีต่อภาพรวมอุตสาหกรรมที่มีปัจจัยใหม่เข้ามาทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง แต่ต้องรอลุ้นให้เกิดขึ้นจริงในเดือน ก.ย.นี้ ซึ่งคาดว่าโบรกเกอร์หลายรายจะมีการปรับประมาณการและราคาเป้าหมายของผู้ประกอบการแต่ละรายเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ โบรกฯ ส่วนใหญ่ให้ ADVANC และ DTAC โดดเด่นน่าลงทุน เพราะมีความพร้อมสูงในการเข้าประมูล 3G ขณะที่ TRUE ยังมีปัจจัยเสี่ยงในปัญหาหนี้และเงินลงทุน

          โบรกเกอร์         ADVANC           DTAC           TURE
                           คำแนะนำ(เป้า)     คำแนะนำ(เป้า)   คำแนะนำ(เป้า)
          บล.ทรีนิตี้          ซื้อ(90)           ซื้อ(40)         ถือ(2.90)
          บล.กิมเอ็งฯ        ทยอยสะสม(99)     ซื้อ(43.50)      ถือ(2.91)
          บล.กรุงศรีอยุธยา    ซื้อ(94)           ซื้อ(40.50)      เก็งกำไร(3.10)

นักวิเคราะห์ บล.ทรีนีตี้ ประเมินว่า อุตสาหกรรมโทรคมนาคมในช่วงครึ่งปีหลังน่าจะเติบโตได้อย่างน้อยตามการเติบโตของเศรษฐกิจโดยรวมที่คาว่าจะเติยโต 3.5% และช่วงไตรมาส 3-4/53 ผลประกอบการของผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่จะออกมาดีกว่าช่วงไตรมาส 2/53 ที่ปกติเป็นช่วงโลว์ซีซั่น โดยเฉพาะรายได้จากการให้บริการ non voice ที่น่าจะเพิ่มขึ้นตามการเติบโตอย่างมากของการใช้บริการด้านข้อมูลและอินเทอร์เน็ตผ่านมือถือ

รวมทั้งจะมีการเปลี่ยนแปลงของภาพรวมอุตสาหกรรม ซึ่งคาดว่าการเปิดประมูลใบอนุญาตให้บริการ 3G รอบนี้น่าจะเดินหน้าได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ในเดือน ก.ย.53 หลังจากการทำประชาพิจารณ์ไปเมื่อวันที่ 25 มิ.ย.53 เป็นที่น่าสังเกตว่าหน่วยงานด้านการสื่อสารไม่ได้คัดค้านทั้ง บมจ.กสท.โทรคมนาคม(CAT)และ บมจ.ทีโอที(TOT)

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่ากระทรวงคลังน่าจะไม่มีอำนาจในการขวางประมูล เพราะเห็นได้จากการที่ รมว.คลังเสนอแผนการแปรสัมปทานผู้ให้บริการรายเดิมที่ยอมอ่อนข้อลงมาก มีแนวโน้มจะแปลงสัมปทานเป็นใบอนุญาตอายุ 15 ปี และค่าตอบแทนที่ปรับลดลงจากสัมปทานต้นฉบับที่ 25-30% เหลือ 12.5% เป็นสัญญาณบวกต่อหุ้นสื่อสารทั้ง ADVANC, DTAC และ TRUE จะได้ประโยชน์จากภาพอุตสาหกรรมจะเปลี่ยนไปจากเดิม รวมทั้งต้นทุนของผู้ให้บริการจะลดลง แต่ต้องนำเงินเหล่านั้นมาลงทุนขยายโครงข่ายเพิ่มเติม

หุ้นที่น่าจะโดดเด่นเราเลือก ADVANC ที่มีความพร้อมต่อการประมูลสูงสุด และผู้รับความเสี่ยงได้เลือก TRUE ซึ่งปัจจัยพื้นฐาน และความเสี่ยงของธุรกิจมีแนวโน้มดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญหากมีการประมูล 3G—3.9G

บล.ทรีนิตี้ ยังคงแนะ“ซื้อ"ADVANC และ DTAC ขณะที่ TRUE ยังคงแนะนำ“Hold"ซึ่งหุ้นทั้งหมดอยู่ระหว่างการประเมินมูลค่าใหม่ เนื่องจากราคาพื้นฐานดังกล่าวยังไม่ได้รวมการประมูลใบอนุญาต 3G ทั้งนี้ คาดว่าจะมีการปรับประมาณการเพิ่มขึ้น

น.ส.ศลยา ณ สงขลา ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย)กล่าวว่า อุตสาหกรรมโทรคมนาคมครึ่งปีหลังแม้ว่าจะไม่ได้โดดเด่นมาก เพราะช่วงไตรมาส 2-3 เป็นช่วงโลว์ซีซั่น แต่ไตรมาส 4/53 ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซั่นก็น่าจะกลับมาดีมากอีกครั้ง

แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับปีที่แล้วผลประกอบการของผู้ประกอบการรายหลัก อย่าง DTAC ADVANC และ TRUE จะออกมาดีขึ้น เพราะปีนี้มีรายได้จากสมาร์ทโฟนที่เติบโตและได้รับความนิยมสูง รวมทั้งส่งผลต่อการใช้อินเทอร์เน็ตผ่านมือถือเติบโตอย่างมีนัยสำคัญตามกระแสโซเชียลเน็ตเวิร์ค ประกอบกับ การเติบโตทางเศรษฐกิจดีขึ้นกว่าปีก่อนที่มีปัญหาทำให้อัตราการใช้บริการต่อหัวต่อคนเพิ่มขึ้นมาก และยอดผู้ใช้บริการใหม่ยังเพิ่มขึ้นด้วย

สำหรับการเปิดประมูล 3G ยังคงต้องเอาใจช่วย ทุกอย่างยัง 50:50 ขั้นแรกต้องรอให้ปรกาศในราชกิจจานุเบกษา ที่คาดว่าจะประกาศได้ในช่วงกลางเดือน ก.ค.หากมีการประมูล 3G จริงจะเป็นการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมอย่างมาก แต่อย่างไรก็ตาม เราคงต้องให้มีการเปิดประมูลที่ชัดเจนก่อนจึงจะคาดหวัง เพราะที่ผ่านมาเคยผิดหวังกันมาหลายรอบแล้ว

ทั้งนี้ หากการประมูล 3G เกิดขึ้นจริง ผู้ประกอบการรายใหญ่ อย่าง ADVANC และ DTAC ยังคงได้เปรียบ แต่หากไม่รวมใบอนุญาต 3G หุ้น DTAC โดดเด่นที่สุด โดยแนะนำ“ซื้อ"เพราะมองว่า DTAC มีความสามารถในการสร้างกำไรสูง คาดว่ากำไรสุทธิปีนี้จะโตจากปีก่อน 24%

ส่วน ADVANC แนะนำ“ทยอยสะสม"แม้ว่าบริษัทจะมีผลประกอบการที่เติบโต มีการปันผลสูง แต่ยังมีความเสี่ยงด้านการเมืองมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะประเด็นที่รัฐบาลปัจจุบันต้องการให้มีการจ่ายชดเชยหลังรัฐสูญเสียประโยชน์จากการแก้ไขสัญญาสัมปทานในอดีต เชื่อว่าถึงที่สุดแล้วต้องใช้กระบวนการทางกฎหมายและใช้เวลานานมากกว่าจะมีความชัดเจน

สำหรับ TRUE ยังคงแนะ“ถือ"ประเด็นสำคัญที่ TRUE จะดำเนินการเร็วๆนี้ คือ การ Refinance ซึ่งราคาสุดผู้บริหารยืนยันว่าจะทำให้แล้วเสร็จภายในปีนี้ หากดำเนินการได้จริงจะช่วยลดภาระดอกเบี้ยและยืดอายุหนี้ออกไปได้ ทำให้บริษัทมีความคล่องตัวทางการเงินเพิ่มมากขึ้น เพราะหนี้ของ TRUE MOVE มีต้นทุนทางการเงินสูงมาก TRUE เองต้องแบกรับภาระมาตลอด

แต่อย่างไรก็ตาม มีข้อเสียคือ การ Refinance จะมีค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายสูง โดยประเมินเบื้องต้นว่าเกือบ 1 พันล้านบาท เป็นค่าใช้จ่ายในคราวเดียว แต่หาก Refinance สำเร็จน่าจะส่งผลดีต่อบริษัทในระยะยาวและมีโอกาสในการแข่งขันเพิ่มขึ้นด้วย

ด้านนักวิเคราะห์ บล.กรุงศรีอยุธยา ประเมินว่า ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในกลุ่มโทรคมนาคมรายใหญ่ อย่าง ADVANC DTAC และ TRUE ยังคงเติบโตได้ตามอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ ซึ่งผู้ประกอบการแต่ละรายเน้นการควบคุมค่าใช้จ่ายและต้นทุนด้านต่างๆ เนื่องจากอัตราการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ต่อประชากรเกินกว่า 100% แล้ว จึงเป็นเรื่องยากที่จะมีการเติบโตอย่างหวือหวา คงต้องรอให้เกิด 3G ก่อนภาพรวมอุตสาหกรรมจึงจะเปลี่ยนไปเติบโตด้าน Data ซึ่งการมีเทคโนโลยีใหม่ส่งผลต่อตัวหลักทรัพย์ในการที่นักลงทุนให้ความสนใจ

หุ้นเด่นยังคงแนะ“ซื้อ" ADVANC เป็นหุ้นที่มีการจ่ายปันผลสูง เรายังคงประมาณการผลประกอบการในปี 53 คาดว่าจะมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 6% จากงวดเดียวกันของปีก่อน มาเป็น 18,075 ล้านบาท และมีความพร้อมสุดในการเข้าประมูล 3.9G ในเดือน ก.ย 53 ทั้งนี้ หากใช้สมมุติฐานว่าการประมูลแล้วเสร็จช่วงต้นปี 54 มูลค่าพื้นฐานจะปรับเพิ่มขึ้นประมาณ 19 บาทต่อหุ้น มองว่าเป็น Upside potential ในอนาคต

นอกจากนี้ คงแนะ“ซื้อ"DTAC เป็นบริษัทที่ยังมีการเติบโตของรายได้และกำไรเติบโตดีที่สุดในกลุ่ม คาดว่ากำไรสุทธิปี 53 เติบโต 22% สูงกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ 9% ส่วนการประมูล 3G-3.9G แม้ผู้ประกอบการส่วนใหญ่จะมองว่ามีโอกาสล่าช้ากว่าที่ กทช.ตั้งเป้าใน ก.ย.นี้ แต่เรายังมองเป็นปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญในระยะยาว เนื่องจากต้นทุนค่าใช้จ่ายด้านสัมปทานที่จะลดลง

สำหรับ TRUE แนะนำ“Trading"เพราะโดดเด่นน้อยที่สุดในกลุ่ม


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ