แหล่งข่าวจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) กล่าวว่า บมจ.ไทยออยล์ (TOP) ได้รายงานมายัง กฟผ.ถึงแผนหยุดเดินเครื่องเพื่อซ่อมบำรุงโรงไฟฟ้าของ บมจ.ผลิตไฟฟ้าอิสระ(ประเทศไทย)(IPT) กำลังการผลิต 700 เมกะวัตต์ ล่าสุดคาดว่าจะต้องใช้ระยะเวลาในการปิดซ่อมโรงไฟฟ้าดังกล่าวประมาณ 6 เดือน นับตั้งแต่วันที่ 28 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยคาดว่าจะสามารถเปิดเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าได้ประมาณเดือน ต.ค.นี้
สาเหตุที่ทำให้เกิดความล่าช้าในการซ่อมโรงไฟฟ้า IPT เนื่องจากไม่มีอะไหล่สำรองจึงจำเป็นต้องสั่งอะไหล่ใหม่เข้ามาเกือบทั้งหมด แต่ในส่วนของความเสียหายไม่ได้มาก ซึ่งเกิดจากการที่น้ำมันเครื่องรั่วออกจากระบบหล่อเย็นในส่วนของโรงไฟฟ้ากังหันไอน้ำ(Stream Turbine) แต่ในส่วนของโรงไฟฟ้ากังหันแก๊ส(Gas Turbine) ไม่ได้รับความเสียหาย แต่ที่หยุดเดินเครื่องทั้งหมด เพราะการเดินเฉพาะส่วนโรงไฟฟ้ากังหันแก๊สจะไม่คุ้มทุน
อย่างไรก็ตาม การปิดซ่อมโรงไฟฟ้าดังกล่าวไม่กระทบกับแผนสำรองไฟฟ้าในประเทศไทยมากนัก เนื่องจากกำลังการผลิตไฟฟ้าของ IPT เพียง 700 เมกะวัตต์ เทียบกับปริมาณความต้องการใช้ไฟฟ้าของไทยอยู่ที่ประมาณ 25,000 เมกะวัตต์ แต่จะมีผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตไฟฟ้ารวมเล็กน้อย เพราะโรงไฟฟ้า IPT เป็นโรงไฟฟ้าหลักของระบบที่มีประสิทธิภาพ และมีต้นทุนต่ำ เมื่อหยุดเดินเครื่องจะต้องมีการนำโรงไฟฟ้าอื่น และเชื้อเพลิงประเภทอื่นเข้ามาทดแทน ทำให้มีต้นทุนสูงขึ้นเล็กน้อย แต่คาดว่าจะไม่กระทบต่อค่าไฟฟ้าให้เพิ่มมากนัก
สำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้นทาง TOP ได้แจ้งว่า มีประกันภัยครอบคลุมในส่วนที่เสียหายเกือบทั้งหมด แต่ในส่วนของค่าความพร้อมจ่าย(เอพี) ซึ่งโรงไฟฟ้าจะได้รับจากการเดินเครื่องก็จะหายไปในช่วงการหยุดซ่อม