(เพิ่มเติม) SCC มั่นใจยอดขายปี 53 โตทะลุเป้า 10%,เจรจาซื้อ รง.กระดาษในฟิลิปปินส์

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday July 5, 2010 16:43 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย(SCC) มั่นใจยอดขายปี 53 จะทะลุเป้าหมายที่เคยคาดไว้ว่าจะเติบโต 10% เนื่องจากธุรกิจกระดาษและธุรกิจวัสดุก่อสร้างเติบโตได้ดี ทั้งในแง่ของปริมาณและราคา ขณะที่บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาเข้าซื้อกิจการโรงงานกระดาษหลายแห่ง โดยเฉพาะในประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งคาดว่าจะใช้เงินลงทุนแห่งละ 300-800 ล้านบาท และสนใจซื้อกิจการในธุรกิจปูนซิเมนต์และวัสดุก่อสร้าง

นายกานต์ ตระกูลฮุน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปูนซีเมนต์ไทย(SCC)เปิดเผยว่า บริษัทมีกำลังผลิตเพิ่มขึ้นในส่วนของธุรกิจกระดาษและปูนซิเมนต์ ประกอบกับราคาขายกระดาษในตลาดโลกจะปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะช่วยผลักดันยอดขายของบริษัทให้เติบโตได้สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้เติบโต 10% แน่นอน

แต่ยอมรับว่าราคาปูนซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ในกลุ่มปิโตรเคมีตอนนี้เริ่มอ่อนตัวลงในไตรมาส 2/53 แต่ในช่วงครึ่งปีหลังส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์(สเปรด)ปิโตรเคมีน่าจะอยู่ในระดับ 400 เหรียญสหรัฐ/ตัน ใกล้เคียงกับไตรมาส 2/53 โดยคาดว่าราคาปิโตรเคมีคาดว่ามีความผันผวนสูง เพราะมีกำลังการผลิตใหม่จากจีนและตะวันออกกลางไหลเข้ามาในตลาดโลก แต่ถ้าสเปรดต่ำลงกว่านี้ก็เชื่อว่าจะมีโรงงานปิโตรเคมีขนาดเล็กปิดตัวลง

นายกานต์ กล่าวว่า บริษัทยังคงเดินหน้าขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่อง ทั้งการลงทุนที่เริ่มด้วยตัวเองและการเข้าซื้อกิจการที่มีอยู่แล้ว โดยขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างเจรจาและหาข้อสรุปการลงทุนในโครงการปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์ที่ประเทศเวียดนาม ซึ่งเป็นการลงทุนขนาดใหญ่มูลค่า 4-6 พันล้านเหรียญสหรัฐ โดยปัจจุบัน บริษัทถือหุ้น 71% และเวียดนาม 29% ซึ่งขณะนี้มีการ์ต้าปิโตรเคมีคอลแสดงความสนใจที่จะร่วมทุนด้วย คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายใน 2 เดือนนี้ โดยจะคัดเลือกผู้ร่วมทุนที่สามารถสนับสนุน feed stock ได้

"ตอนนี้เราก็คุยอยู่หลายรายที่สนใจเข้าร่วมลงทุนแต่ยังไม่ได้สรุปสัดส่วนการถือหุ้น คาดภายใน 2 เดือนน่าจะจบและเริ่มเห็นการลงทุนในปีหน้า แต่ปูนฯ ยังเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในโครงการนี้"นายกานต์ กล่าว

นอกจากนี้ บริษัทยังสนใจการลงทุนในการเข้าซื้อกิจการโรงงานกระดาษ โดยขณะนี้กำลังเจรจากับโรงงานหลายแห่งในฟิลิปปินส์ คาดว่าจะใช้เงินลงทุนแห่งละ 300-800 ล้านบาท โดยบริษัทต้องการซื้อกิจการโรงงานทุกแห่งที่เจรจาอยู่ แต่ทั้งนี้จะต้องขึ้นอยู่กับเจ้าของเดิมว่าต้องการที่จะขายหรือไม่

และ บริษัทยังสนใจซื้อกิจการทั้งในและต่างประเทศเพิ่มเติมทั้งในส่วนวัสดุก่อสร้างและปูนซิเมนต์ โดยเฉพาะในแถบอาเซียน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ