ดัชนีเวทเต็ดปรับตัวขึ้น 108.52 จุด หรือ 1.46% ปิดที่ 7,548.48 จุด ซึ่งเป็นการปิดบวกต่อเนื่องเป็นวันที่ 3
-- ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดตลาดวันนี้ดีดตัวขึ้น หลังจากที่ธนาคารกลางออสเตรเลียตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ระดับเดิม ซึ่งช่วยหนุนหุ้นกลุ่มแบงค์ให้ปรับตัวขึ้นตามไปด้วย
ดัชนี S&P/ASX 200 ปิดพุ่งขึ้น 54 จุด หรือ 1.3% แตะ 4,276.1 จุด
-- ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดบวกในวันนี้ เพราะได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นจีนและเงินเยนที่อ่อนตัวลง ซึ่งช่วยให้บรรยากาศการซื้อขายคึกคักขึ้นในช่วงบ่าย หลังจากดัชนีดิ่งลงไปแตะระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือนในช่วงเช้า
ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดบวก 71.26 จุด หรือ 0.77% แตะที่ 9,338.04 จุด โดยในระหว่างวัน ดัชนีดิ่งลงไปแตะระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือนที่ 9,091.70 จุด
-- ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดปรับตัวสูงขึ้นในวันนี้ ท่ามกลางปัจจัยหนุนจากแนวโน้มผลประกอบการภาคเอกชนที่แข็งแกร่ง โดยในวันนี้หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและยานยนต์ที่เคลื่อนไหวในแดนบวก ขณะที่กลุ่มนักลงทุนสถาบันส่งแรงซื้อเข้าหนุนหุ้นผู้ส่งออกสินค้าในกลุ่มบลูชิพ
ดัชนีคอมโพสิตปรับตัวเพิ่มขึ้น 9.57 จุด หรือ 0.57% แตะที่ 1,684.94 จุด โดยมีปริมาณการซื้อขายที่ 329.8 ล้านหุ้น มูลค่า 4.79 ล้านล้านวอน
-- ดัชนี VN ตลาดหุ้นเวียดนามปิดตลาดวันนี้ร่วงลง สวนทางตลาดหุ้นส่วนใหญ่ในเอเชียที่ปรับตัวขึ้น
ดัชนี VN ปิดลบ 5.73 จุด หรือ 1.13% แตะ 500.32 จุด ปริมาณการซื้อขาย 52.54 ล้านหุ้น มูลค่า 1.46 ล้านล้านดอง หรือ 76.72 ล้านดอลลาร์
-- ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดตลาดวันนี้พุ่งสูงขึ้น ขณะที่นักลงทุนมองว่า ช่วงขาลงในตลาดได้สิ้นสุดลงแล้ว ขณะที่ธนาคารอะกริคัลเจอรัล แบงค์ ออฟ ไชน่า เตรียมขายหุ้นไอพีโอที่คาดว่าจะเป็นการขายหุ้นไอพีโอครั้งใหญ่ที่สุดในโลก
ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดพุ่ง 45.48 จุด ปิดที่ 2,409.42 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 21 มิ.ย.
-- ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดปรับตัวสูงขึ้นในวันนี้ โดยการนำของหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และธนาคารจีน ก่อนที่ธนาคารอะกริคัลเจอรัล แบงค์ ออฟ ไชน่า (ABC) ซึ่งเป็นธนาคารของรัฐบาลจีน จะเปิดขายหุ้นไอพีโอในตลาด
ดัชนีฮั่งเส็งบวก 241.92 จุด หรือ 1.22% ปิดที่ 20,084.12 จุด หลังจากที่เคลื่อนไหวระหว่าง 19,793.47-19,913.40 จุด มีมูลค่าการซื้อขายเพิ่มขึ้นจากเมื่อวานนี้แตะที่ 4.65 หมื่นล้านดอลลาร์ฮ่องกง (ราว 5.97 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)