SALEE คาดครึ่งปีหลังเติบโตต่อเนื่องจากครึ่งปีแรกตามออร์เดอร์สูงขึ้น

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday July 7, 2010 13:46 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสุพจน์ สุนทรินคะ ผู้จัดการแผนกนักลงทุนสัมพันธ์และพัฒนาธุรกิจ บมจ.สาลี่อุตสาหกรรม(SALEE) เปิดเผยแนวโน้มธุรกิจในครึ่งปีหลังว่า มีโอกาสเติบโตต่อเนื่องจากครึ่งปีแรกอย่างชัดเจนตามการเติบโตของอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ และคอนซูเมอร์โปรดักส์ ซึ่งเป็นผลจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ทำให้มีคำสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง

ในส่วนของธุรกิจหลักซึ่งเป็นธุรกิจผลิตชิ้นส่วนพลาสติกและธุรกิจผลิตฉลากสินค้า เชื่อว่าในครึ่งปีหลังธุรกิจยังมีการเติบโตที่ดี ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก เนื่องจากสินค้าของบริษัทฯ อิงกับภาคการส่งออกในธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์และธุรกิจคอนซูเมอร์โปรดักส์ โดยปัจจุบันมีคำสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง

ประกอบกับตามปกติในธุรกิจดังกล่าวครึ่งปีหลังคำสั่งซื้อจะมีเข้ามามากกว่าครึ่งปีแรก นอกจากนั้น ธุรกิจดังกล่าวมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีในขณะที่ต้นทุนราคาวัตถุดิบก็ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา จึงมั่นใจว่าจะสะท้อนให้ผลประกอบการของบริษัทฯ ดีขึ้นในทิศทางเดียวกัน ดังนั้น เพื่อเป็นการรองรับโอกาสทางธุรกิจที่กำลังจะมาถึง บริษัทฯ เตรียมใช้งบลงทุนกว่า 35 ล้านบาท ซื้อเครื่องจักรเพื่อขยายกำลังการผลิตให้เพิ่มขึ้น เพียงพอต่อการรองรับคำสั่งซื้อที่จะเข้ามาในอนาคต"

นายสุพจน์ กล่าวอีกว่า ในปีนี้ได้วางงบลงทุนไว้จำนวน 100 ล้านบาท โดยเมื่อต้นปีที่ผ่านมาได้ซื้อเครื่องพิมพ์ไปแล้ว 50 ล้านบาท และเตรียมจะซื้อเครื่องจักรอีกประมาณ 35 ล้านบาท แบ่งเป็น เครื่องฉีดพลาสติก 2 เครื่อง ใช้งบลงทุน 20 ล้านบาท และเครื่องพิมพ์อีก 1 เครื่อง ใช้งบลงทุนราว 15 ล้านบาท ทำให้กำลังผลิตรวมปีนี้ของบริษัทฯ เพิ่มขึ้นอีก 30% โดยจะเริ่มผลิตปลาย ก.ค.ถึงต้น ส.ค. จะรองรับคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นทั้งการพิมพ์และชิ้นส่วนพลาสติก เพราะเชื่อว่าความต้องการสินค้ายังขยายตัวได้อีกตามเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัว

ในปีนี้ SALEE ตั้งเป้าหมายรายได้ไว้ที่ 700-800 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนที่ทำได้ 920 ล้านบาท เนื่องจากในปีนี้บริษัทฯไม่มีรายได้จาก SC WADO หลังจากช่วงที่ผ่านมาได้ขายหุ้นบริษัทดังกล่าวทั้งหมด ทำให้ในปีนี้สัดส่วนรายได้หลักของบริษัทฯจะมาจากธุรกิจผลิตชิ้นส่วนพลาสติกและธุรกิจผลิตฉลากสินค้าเป็นหลัก จากการดำเนินธุรกิจของ SALEE และบริษัทย่อยคือ บริษัท พาโก้ สาลี่ พริ้นท์ติ้ง จำกัด

ในขณะเดียวกัน การปรับโครงสร้างทางธุรกิจในช่วงที่ผ่านมาทำให้ฐานะทางการเงินของกลุ่มบริษัทแข็งแกร่งขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดย ณ สิ้นไตรมาส 1/53 บริษัทฯ มีสัดส่วนหนี้สิน/ทุน (D/E ratio)ลดลงเหลือเพียง 0.2 เท่า เท่านั้น จากเดิมที่เคยมี D/E ratio สูงกว่า 1 เท่า จึงทำให้การพิจารณาหาโอกาสการลงทุนใหม่ ๆ ในธุรกิจที่มีศักยภาพสามารถทำได้อย่างคล่องตัว รวมทั้งการขยายการลงทุนในธุรกิจเดิมด้วย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ