ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดพุ่ง 274.66 จุด ขณะนักลงทุนเชื่อมั่นผลประกอบการเอกชน

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday July 8, 2010 06:49 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเหนือระดับ 10,000 จุดเมื่อคืนนี้ (6 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเชื่อมั่นว่าภาคเอกชนจะรายงานผลประกอบการที่สดใส หลังจากสเตท สตรีท คอร์ป ซึ่งเป็นบริษัทการเงินของสหรัฐ เปิดเผยตัวเลขคาดการณ์ผลประกอบการที่แข็งแกร่ง ซึ่งข่าวดังกล่าวสามารถบดข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของยุโรปได้

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์พุ่งขึ้น 274.66 จุด หรือ 2.82% ปิดที่ 10,018.28 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 32.21 จุด หรือ 3.13% ปิดที่ 1,060.27 จุด และดัชนี Nasdaq พุ่งขึ้น 65.59 จุด หรือ 3.13% ปิดที่ 2,159.47 จุด

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 8.95 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 2,650 ต่อ 431 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ราว 9.65 พันล้านหุ้น

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างคึกคักเนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มธนาคารอย่างหนานแน่น ทำให้ราคาหุ้นกลุ่มธนาคารดีดตัวขึ้นทั้งกระดานและยังหนุนดัชนีดาวโจนส์ทะยานขึ้นเหนือระดับ 10,000 จุดด้วย หลังจากสเตรท สตรีท คอร์ป เปิดเผยตัวเลขคาดการณ์ผลประกอบการที่สูงกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ในวอลล์สตรีทคาดการณ์ไว้ ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นว่าฤดูการรายงานผลประกอบการของภาคเอกชนสหรัฐจะสดใส

ขณะเดียวกันการพุ่งขึ้นของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ รวมถึงราคาน้ำมันดิบและแร่ทองแดง ยังเป็นอีกปัจจัยที่หนุนตลาดทะยานขึ้นด้วย โดยสัญญาน้ำมันดิบ NYMEX เดือนส.ค.พุ่งขึ้นเกือบ 3% หลังจากสำนักงานสารนิเทศด้านพลังงานของสหรัฐ (EIA) คาดการณ์ว่าดีมานด์พลังงานทั่วโลกจะขยายตัว 1.5 ล้านบาร์เรลต่อวันในปีนี้และปีหน้า

นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากการคาดการณ์ที่ว่ายอดค้าปลีกของสหรัฐจะขยายตัวรวดเร็วที่สุดในรอบ 4 ปี หลังจากสภาศูนย์การค้าระหว่างประเทศออกรายงานประจำเดือนมิ.ย.ว่า ยอดค้าปลีกของห้างสรรพสินค้าในสหรัฐขยายตัวในอัตรา 4% ต่อเดือน

ทั้งนี้ ปัจจัยบวกดังกล่าวทำให้นักลงทุนมองข้ามข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอจากยุโรป รวมถึงรายงานที่ว่า ยอดสั่งซื้อภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ค.ของเยอรมนีลดลง 0.5% หลังจากที่ปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งมา 2 เดือน และรายงานจากยูโรสแตทที่ระบุว่า เศรษฐกิจในกลุ่มยูโรโซน หรือ 16 ประเทศกลุ่มสหภาพยุโรปที่ใช้สกุลเงินยุโร ขยายตัวเพียง 0.2% ในช่วงไตรมาสแรก

ทั้งนี้ หุ้นกลุ่มการเงินทะยานขึ้น โดยหุ้นสเตท สตรีท คอร์ป ปิดพุ่ง 9.9% ขณที่หุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ปิดบวก โดยหุ้นอัลโค อิงค์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตอลูมิเนียมรายใหญ่ ปิดพุ่ง 3.3% และหุ้นยูเอส สตีล ปิดบวก 5.7%

นักลงทุนจับตาดูการประชุมธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ในช่วงเย็นวันพฤหัสบดีนี้ ซึ่งมีการคาดการณ์ในวงกว้างว่าอีซีบีจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิม และยังติดตามผลการทดสอบภาวะวิกฤติ (stress test) ของธนาคารยุโรป ซึ่งนักลงทุนเชื่อมั่นว่าธนาคารส่วนใหญ่ในยุโรปจะผ่านการทดสอบในครั้งนี้

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ ส่วนวันศุกร์ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลสต็อกสินค้าภาคค้าส่งเดือนพ.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ