ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (7 ก.ค.) จาแรงซื้อที่ส่งเข้าหนุนหุ้นกลุ่มธนาคาร เนื่องจากนักลงทุนเชื่อมั่นว่าผลการทดสอบภาวะวิกฤติ (stress test) ของธนาคารในยุโรปจะออกมาดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ ขณะที่หุ้นบีพีดีดตัวขึ้นหลังจากมีข่าวว่ากองทุนในกลุ่มตะวันออกกลางอาจเข้าลงทุนในบีพี นอกจากนี้ การคาดการณ์ผลประกอบการที่แข็งแกร่งของสเตท สตรีท คอร์ป ซึ่งเป็นบริษัทการเงินของสหรัฐ ยังเป็นอีกปัจจัยที่หนุนหุ้นกลุ่มธนาคารของอังกฤษทะยานขึ้นด้วย
ดัชนี FTSE 100 ดีดขึ้น 49.82 จุด หรือ 1.0% ปิดที่ 5,014.82 จุด
นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มธนาคารเพราะเชื่อว่าผลการทดสอบ stress test จะออกมาดีเกินคาด โดยหุ้นธนาคารบาร์เคลย์สปิดบวก 6.2% หุ้นรอยัลแบงค์ ออฟ สก็อตแลนด์ ปิดพุ่ง 4.7%
หุ้นบีพีพุ่งขึ้น 4.8% หลังจากมีการคาดการณ์ว่า กองทุนบริหารความมั่งคังในตะวันออกกลาง รวมถึงอาบูดาบี อาจเข้าลงทุนในบีพี ภายหลังจากนายโทนี เฮย์เวิร์ด ซีอีโอของบีพีได้ร่วมประชุมกับเจ้าหน้าที่จากสำนักงานการลงทุนของอาบูดาบี
ก่อนหน้านี้มีรายงานว่านายโชกรี กาเนม ประธานบริษัทน้ำมันแห่งชาติของลิเบีย จะแนะนำให้กองทุนความมั่งคั่งของลิเบียเข้าซื้อหุ้นในบริษัทบีพี ซึ่งกำลังประสบปัญหาภาระหนี้ที่เพิ่มสูงขึ้น อันเนื่องมาจากเหตุการณ์น้ำมันจากแท่นขุดเจาะของบริษัทไหลทะลักลงสู่อ่าวเม็กซิโกเป็นปริมาณมหาศาล ชี้มูลค่าหุ้นบีพีในตอนนี้เหมาะแก่การซื้อเพื่อเก็งกำไร
ทั้งนี้ บีพีกำลังเผชิญปัญหาหนี้สินที่เพิ่มสูงขึ้น โดยบีพีเปิดเผยว่า จนถึงขณะนี้ ค่าใช้จ่ายที่เกิดจากเหตุการณ์น้ำมันจากแท่นขุดเจาะของบริษัทรั่วไหลลงสู่อ่าวเม็กซิโก ได้เพิ่มขึ้นแตะ 3.12 พันล้านดอลลาร์แล้ว ซึ่งค่าใช้จ่ายดังกล่าวรวมถึง การควบคุมการรั่วไหลของน้ำมัน การทำความสะอาดคราบน้ำมันที่สร้างความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมทั่วบริเวณ และการจ่ายเงินชดเชยแก่ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุการณ์นี้