SPACK คาดปี 53 กำไรโต 10-12% ตามรายได้เพิ่ม-แถมมีกำไรขาย EPCO

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday July 9, 2010 11:51 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายยุทธ ชินสุภัคกุล ประธานกรรมการบริหาร บมจ.เอส.แพ็ค แอนด์ พริ้นท์(SPACK)เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า ในปี 53 บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโต 15% จากปีก่อนที่มีรายได้ 1,056 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิคาดว่าจะเติบโต 10-12% จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 125 ล้านบาท ซึ่งยังไม่รวมกำไรจาการขายหุ้น บมจ.โรงพิมพ์ตะวันออก (EPCO)

ทั้งนี้ บริษัทมีกำไรจากการขายหุ้น EPCO ให้กับบมจ.ซันไชน์ คอร์เปอเรชั่น(SSE)ประมาณ 50-60 ล้านบาท คาดว่าจะบันทึกเข้ามาเป็นกำไรในไตรมาส 3/53

นายยุทธ กล่าวว่า สาเหตุที่รายได้ปีนี้เติบโตขึ้นมาจากกลุ่มลูกค้าหลัก คือ ผู้ผลิตถุงมือยางที่มีคำสั่งซื้อบรรจุภัณฑ์เข้ามามาก รวมทั้ง ลูกค้ากลุ่มอาหาร สินค้าอุปโภคบริโภค และอื่นๆ ส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้าไม่ค่อยกระเตื้องนัก โดยเฉพาะในไตรมาส 2/53 นี้ ยอดขายโดยรวมดีกว่างวดเดียวกันปีก่อมาก เนื่องจากสินค้าเกือบทุกลุ่มเติบโตได้ดี

ขณะนี้อัตรากำไร(มาร์จิ้น)เฉลี่ยทุกผลิตภัณฑ์อยู่ประมาณ 18% โดยขึ้นอยู่กับราคาวัตถุดิบคือกระดาษ ซึ่งปีนี้ราคากระดาษทรงตัว แต่แนวโน้มอาจจะปรับขึ้นเล็กน้อยตามทิศทางเดียวกับราคาน้ำมัน ซึ่งถือเป็นปัจจัยเสี่ยงของบริษัท แต่บริษัทก็สามารถปรับราคาขายกับลูกค้าได้อยู่แล้ว

"ทิศทางครึ่งปีหลังธรรมดาจะดีกว่าครึ่งปีแรก ปีนี้ก็ยังจะดีกว่าครึ่งปีแรก"นายยุทธ กล่าว

*ลงทุนปีนี้ 30 ลบ.เพิ่มเครื่องจักร

นายยุทธ กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทตั้งงบลงทุน 30 ล้านบาทสำหรับซื้อเครื่องจักรใหม่ 10 กว่าล้านบาท อีกส่วนซื้อที่ดินใหม่เพื่อสร้างอาคารเก็บสินค้าในต่างจังหวัด เนื่องจากคำสั่งซื้อสินค้าบรรจุภัณฑ์ถุงมือยางที่เพิ่มขึ้นจาก บมจ.ศรีตรังแอโกรอิสดัสทรี(STA)ซึ่งเป็นลูกค้าหลัก โดยโรงงานนี้จะสร้างเสร็จภายในปลายปีหรือประมาณเดือนธ.ค. สำหรับแหล่งเงินลงทุนมาจากกระแสเงินสด

ขณะที่เงินลงทุนอีกส่วนจะซื้อเครื่องจักรเพิ่มทดแทนเครื่องจักรเก่าที่มีกำลังการผลิตในบางจุดไม่ดี และรองรับลูกค้าใหม่ในส่วนของสินค้าอุปโภคบริโภคที่เพิ่มขึ้นขึ้นจากเศรษฐกิจที่ดีขึ้น

"ลูกค้าเราขยายกิจการเราก็ต้องขยายตามไปด้วย โดยเฉพาะ STA ผู้ผลิตถุงมือยางซึ่งเป็นลูกค้าหลักขยายตลาดเพิ่ม โดยคาดว่าปีหน้าคำสั่งซื้อถุงมือยางจะเติบโต 10-15%" นายยุทธ กล่าว

ปัจจุบัน สัดส่วนรายได้มาจากกลุ่มลูกค้าผู้ผลิตถุงมือยางประมาณ 25% กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า 25% กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม 25% ที่เหลืออื่น 25%

นายยุทธ กล่าวว่า ปีนี้ถึงแม้บริษัทจะลงทุนเพิ่มแต่ก็ยังยืนยันจ่ายเงินปันผลได้ตามนโยบายถ้ามีกำไรก็จ่ายโดยที่ผ่านมาจ่ายปีละ 2 ครั้ง ปีนี้ถ้ามีกำไรมากขึ้นก็จะจ่ายได้มากขึ้น

"ปีนี้ยังจ่ายปันผลเหมือนเดิมถ้ากำไรเยอะขึ้น และยิ่งปีนี้ได้ได้กำไรจากการขายหุ้น EPCO อีกประมาณ 50-60 ล้านบาท"นายยุทธ กล่าว

อนึ่ง ในปี 52 บริษัทได้จ่ายเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 0.40 บาท เป็นการจ่ายระหว่างกาส 0.20 บาท/หุ้น และงวดสิ้นปี อีก 0.20 บาท/หุ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ