ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (12 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเชื่อมั่นว่าผลประกอบการไตรมาส 2 ของภาคเอกชนจะออกมาแข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นนิวยอร์กถูกกดดันเนื่องจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มวัสดุ หลังจากจีนเปิดเผยยอดนำเข้าทองแดงที่หดตัวลง
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 18.24 จุด หรือ 0.18% แตะที่ 10,216.27 จุด ดัชนี S&P 500 บวก 0.79 จุด หรือ 0.07% ปิดที่ 1,078.75 จุด และดัชนี Nasdaq ปรับตัวขึ้น 1.91 จุด หรือ 0.09% ปิดที่ 2,198.36 จุด
ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 6.34 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในอัตราส่วน 2 ต่อ 1 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ราว 9.65 พันล้านหุ้น
นักลงทุนจับตาดูรายงานผลประกอบการไตรมาส 2 ของบริษัทเอกชนและเชื่อมั่นว่าผลประกอบการจะออกมาแข็งแกร่ง นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ด้วย รวมถึงยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
ทั้งนี้ หลังจากตลาดปิดทำการ บริษัท อัลโค อิงค์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตอลูมิเนียมรายใหญ่ของโลกรายงานว่า รายได้สุทธิประจำไตรมาส 2 มีอยู่ทั้งสิ้น 136 ล้านดอลลาร์ หรือ 13 เซนต์ต่อหุ้น เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ของปีที่แล้วที่บริษัทขาดทุน 454 ล้านดอลลาร์ หรือ 47 เซนต์ต่อหุ้น ส่วนตัวเลขกำไรปรับตัวเพิ่มขึ้น 22% สู่ระดับ 5.2 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
นอกจากนี้ อัลโค อิงค์ ยังปรับเพิ่มคาดการณ์ผลประกอบการตลอดปี 2553 เนื่องจากดีมานด์การใช้อลูมิเนียมมีแนวโน้มพุ่งขึ้นเป็น 12% จากเดิมที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 10%
ส่วนบริษัทยักษ์ใหญ่ที่มีกำหนดจะเปิดเผยผลประกอบการในสัปดาห์นี้นั้น รวมถึงเจพีมอร์แกน เชสแอนด์โค แบงค์ ออฟ อเมริกา เจนเนอรัล อิเล็กทริก และอินเทล คอร์ป
ตลาดหุ้นนิวยอร์กถูกกดดันอย่างหนักจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มวัสดุ หลังจากสำนักงานศุลกากรจีนเปิดเผยว่า จีนนำเข้าแร่เหล็ก 47.17 ล้านตันในเดือนมิ.ย.ลดลง 4.73% จากเดือนพ.ค. และลดลง 14.69% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ส่วนยอดนำเข้าทองแดง โลหะผสมทองแดง และผลิตภัณฑ์ทองแดงกึ่งสำเร็จรูปในเดือนมิ.ย.ลดลง 17% มาอยู่ที่ระดับ 328,231 ตัน จากระดับ 396,712 ตันในเดือนพ.ค.
ทั้งนี้ ดัชนี S&P หุ้นกลุ่มวัสดุร่วงลง 1.1% ขณะที่หุ้นฟรีพอร์ท แมคมอร์แกน คอปเปอร์ ปิดลบ 4.2%
หุ้นบีพีปิดพุ่ง 8% หลังจากมีรายงานว่าบีพีกำลังเจรจาขายสินทรัพย์มูลค่า 1.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งรวมถึงหุ้นในแหล่งน้ำมัน Prudhoe Bay ในอลาสก้า ให้กับบริษัท เอแพช คอร์ป ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันจากสหรัฐ ซึ่งข่าวดังกล่าวช่วยบดบังรายงานที่ว่าค่าใช้จ่ายในการรับมือกับเหตุน้ำมันรั่วไหลในอ่าวเม็กซิโกของบีพีเพิ่มขึ้นแตะที่ 3.5 พันล้านดอลลาร์
ทางการสหรัฐจะรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์นี้ โดยวันอังคาร กระทรวงพาณิชย์จะเปิดเผยข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือนพ.ค.และกระทรวงการคลังจะเปิดเผยงบประมาณของรัฐบาลกลางเดือนมิ.ย. วันพุธ กระทรวงพาณิชย์จะเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนมิ.ย.และตัวเลขสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนพ.ค. ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเปิดเผยรายงานการประชุมเมื่อวันที่ 22-23 มิ.ย.
วันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ขณะที่เฟดสาขานิวยอร์กจะเปิดเผยดัชนีภาวะธุรกิจโดยรวม (Empire State Index) เดือนก.ค.รวมทั้งข้อมูลการผลิตในภาคอุตสาหกรรมและอัตราการใช้กำลังการผลิตเดือนมิ.ย. และกระทรวงแรงงานจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนมิ.ย.
ส่วนวันศุกร์ กระทรวงแรงงานจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนมิ.ย.และกระทรวงการคลังจะเปิดเผยข้อมูลเงินทุนไหลเข้าสุทธิและปริมาณการซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐของต่างชาติเดือนพ.ค.