ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (12 ก.ค.) จากแรงซื้อที่ส่งเข้าหนุนหุ้นบริษัท บีพี พีแอลซี เนื่องจากนักลงทุนเชื่อมั่นว่าบีพีจะประสบความสำเร็จในการยับยั้งน้ำมันรั่วไหลในอ่าวเม็กซิโก รวมทั้งข่าวที่ว่าบีพีกำลังเจรจาขายสินทรัพย์บางส่วนให้กับบริษัทน้ำมันของสหรัฐ
ดัชนี FTSE 100 ปิดบวก 34.08 จุด หรือ 0.66% แตะที่ 5,167.02 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 5,128.60 - 5,193.22 จุด
นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นบีพี หลังจากทางบริษัทประกาศว่าอาจจะสามารถยับยั้งการรั่วไหลของน้ำมันดิบในอ่าวเม็กซิโกในสัปดาห์นี้ รวมทั้งรายงานที่ว่าบีพีกำลังเจรจาขายสินทรัพย์มูลค่า 1.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งรวมถึงหุ้นในแหล่งน้ำมัน Prudhoe Bay ในอลาสก้า ให้กับบริษัท เอแพช คอร์ป ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันจากสหรัฐ ทั้งนี้ ข่าวดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นบีพีพุ่งขึ้น 9.4%
ข่าวดังกล่าวช่วยหนุนภาวะการซื้อขายโดยรวมในตลาด แม้ทางบีพีรายงานว่าค่าใช้จ่ายในการรับมือกับเหตุน้ำมันรั่วไหลในอ่าวเม็กซิโกขณะนี้ได้เพิ่มขึ้นแตะที่ 3.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐแล้ว ซึ่งรวมถึงเงินที่จ่ายให้กับผู้ได้รับผลกระทบมูลค่า 165 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งบริษัทได้จ่ายเงินให้ผู้ได้รับผลกระทบไปแล้วกว่า 52,000 ราย จากจำนวนผู้ขอรับเงินชดเชยความเสียหายทั้งสิ้น 105,000 ราย
อย่างไรก็ตาม หุ้นเหมืองแร่ดิ่งลงตามราคาโลหะพื้นฐานในตลาดโลก หลังจากสำนักงานศุลกากรจีนเปิดเผยว่า จีนนำเข้าแร่เหล็ก 47.17 ล้านตันในเดือนมิ.ย.ลดลง 4.73% จากเดือนพ.ค. และลดลง 14.69% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ส่วนยอดนำเข้าทองแดง โลหะผสมทองแดง และผลิตภัณฑ์ทองแดงกึ่งสำเร็จรูปในเดือนมิ.ย.ลดลง 17% มาอยู่ที่ระดับ 328,231 ตัน จากระดับ 396,712 ตันในเดือนพ.ค.
โดยหุ้นคาซัคมิส ซึ่งเป็นบริษัทเหมืองแร่รายใหญ่ของคาซัคสถาน ปิดร่วง 2.9% หุ้นริโอทินโต ปิดร่วง 2.2% และหุ้นบีเอชพี บิลลตัน ปิดลบ 1.5%