หุ้น SICCO ราคาพุ่งขึ้น 16.74% มาอยู่ที่ 5.65 บาท เพิ่มขึ้น 0.81 บาท มูลค่าซื้อขาย 501.65 ล้านบาท ส่วนหุ้น SSEC ราคาพุ่งขึ้น 10.11% มาอยู่ที่ 0.98 บาท เพิ่มขึ้น 0.09 บาท มูลค่าซื้อขาย 25.13 ล้านบาท เมื่อเวลา 15.13 น.
แหล่งข่าวจาก บง.สินอุตสาหกรรม(SICCO)เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า ราคาหุ้น SICCO และ บล.ซิกโก้(SSEC)ในช่วงบ่ายนี้ปรับตัวสูงขึ้นมาก ด้วยวอลุ่มเทรดที่เข้ามาอย่างคึกคัก คาดว่าจะเป็นการเข้ามาเล่นเก็งกำไรของนักลงทุน โดยอิงปัจจัยจากประเด็นเรื่องที่ธนาคารไทยพาณิชย์(SCB) จะขายหุ้น SICCO ออกไปให้กับกลุ่มทุนใหม่
อนึ่ง ก่อนหน้านี้มีรายงานข่าวว่าทางธนาคารไทยเครดิตเพื่อรายย่อยสนใจซื้อ SICCO แต่ผู้บริหารของธนาคารไทยเครดิตฯ ยังปฏิเสธที่จะกล่าวถึงกระแสข่าวดังกล่าว โดยระบุว่าเป็นข่าวลือ
แหล่งข่าว กล่าวว่า ความคืบหน้าในเรื่องนี้ทาง SCB คงยังอยู่ในระหว่างดำเนินการ แต่ไม่แน่ใจว่าใกล้จะสำเร็จแล้วหรือยัง เพราะเป็นเรื่องที่ค้างคามานานแล้ว อย่างไรก็ดี หาก SCB ดำเนินการสำเร็จ ทางบริษัทฯก็คงจะต้องรับรู้ด้วย เพราะจะรายงานให้ตลาดหลักทรัพย์รับทราบต่อไป
"ความคืบหน้าการขายหุ้น SICCO ตอนนี้ทาง SCB คงจะยัง on process อยู่ แต่ไม่แน่ใจว่าจะสำเร็จแล้วหรือไม่ คงจะต้องขึ้นอยู่กับ SCB และทาง SCB ก็กำลังจัดการอยู่ ส่วนที่ราคาหุ้น SICCO และ SSEC ปรับตัวขึ้นในวันนี้ ก็คงจะเป็นเพราะเรื่องนี้ คงจะเข้ามาเล่นเก็งกัน พอ SCB เจรจารายนี้ไม่สำเร็จ แล้วมีรายใหม่เข้ามาให้พิจารณาอีก ก็มีการเล่นเก็งกันไป แต่หาก SCB ทำสำเร็จแล้ว ทางเราต้องรู้ เพราะทางเราต้องแจ้งให้ตลาดฯทราบต่อไปด้วย"แหล่งข่าวจาก SICCO กล่าว
แหล่งข่าวจาก SICCO กล่าวต่อว่า สำหรับการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯในขณะนี้ ทางบริษัทฯยังคงปล่อยสินเชื่อได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้เดือนละ 300 ล้านบาท ปีนี้ก็ตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อประมาณ 3,600 ล้านบาท และขณะนี้ยอดรวมการปล่อยสินเชื่อของบริษัทฯมีอยู่ทั้งสิ้น 15,000-16,000 ล้านบาท
อีกทั้งภายหลังจากที่บริษัทฯได้ผู้บริหารคนใหม่เข้ามา ทำให้นโยบายการบริหารงานเปลี่ยนแปลงไป โดยผู้บริหารคนใหม่ได้วางนโยบายในการบริหารหนี้ให้ดีขึ้น เพราะไม่ต้องการให้กลายเป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPL) โดยจะบริหารหนี้ให้กลับมาเป็นรายได้ให้มากที่สุด ซึ่งปัจจุบันตัวเลข NPL ของบริษัทฯอยู่ที่ 7-8%
"แม้ว่าในช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค.ซึ่งเป็นช่วงที่สถานการณ์การเมืองไม่สงบจะมีการสะดุดอยู่บ้าง โดยบริษัทฯมีตัวเลข NPL เพิ่มขึ้นมา เพราะช่วงนั้นได้ปิดทำการไปหลายวัน การบริหารหนี้ก็เลยสะดุดบ้าง แต่ตอนนี้ก็ได้กลับมาอยู่ในภาวะปกติแล้ว"แหล่งข่าวจาก SICCO กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทฯยังคงเน้นการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ใหม่เป็นหลัก โดยมีสัดส่วนการปล่อยสินเชื่อรถใหม่ 80% ส่วนอีก 20% จะเป็นการปล่อยสินเชื่อให้กับรถยนต์มือสอง รวมทั้งรถมอเตอร์ไซค์ที่คงค้างอยู่ในพอร์ตเดิม แต่ปัจจุบันบริษัทฯไม่ได้ปล่อยสินเชื่อใหม่ให้กับรถมอเตอร์ไซต์แล้ว