สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ชี้แจงว่า ก.ล.ต.ได้มีหนังสือถึงบมจ.ทีพีไอโพลีน (TPIPL) เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.53 ว่าการที่นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ เป็นบุคคลที่อยู่ระหว่างถูกดำเนินคดีตามการกล่าวโทษของ ก.ล.ต. ในข้อหาความผิดในเรื่องการแพร่ข่าวตามมาตรา 239 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535
ทำให้นายประชัยมีลักษณะขาดความน่าไว้วางใจตามข้อ 4(3) ของประกาศคณะกรรมการ ก.ล.ต. ที่ กจ. 8/2553 เรื่อง การกำหนดลักษณะขาดความน่าไว้วางใจของกรรมการและผู้บริหารของบริษัท ลงวันที่ 23 เมษายน 2553 ซึ่งออกโดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 89/3 และมาตรา 89/6 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ฯ
และเป็นผลให้นายประชัยต้องพ้นจากตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารของ TPIPL โดยผลของมาตรา 89/4 และมาตรา 89/6 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ฯ
"การที่ TPIPL จะยังคงให้นายประชัยดำรงตำแหน่งกรรมการ กรรมการบริหาร และผู้บริหารของบริษัทต่อไป จึงเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของคณะกรรมการบริษัท TPIPL ที่ต้องตระหนักว่าบรรดากิจการของบริษัทที่คณะกรรมการ กรรมการ หรือบุคคลซึ่งได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการ ได้กระทำไปในนามของบริษัทโดยมีกรรมการที่มีลักษณะที่ต้องพ้นจากตำแหน่งตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย อาจกระทบต่อความสมบูรณ์และความผูกพันของกิจการดังกล่าวต่อบริษัทได้" เอกสารเผยแพร่ ระบุ
ทั้งนี้ TPIPL มีหนังสือแจ้ง ก.ล.ต.และแจ้งผ่านระบบของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ว่าคณะกรรมการบริษัทในการประชุม ครั้งที่ 6/2553 เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2553 ได้พิจารณาหนังสือแจ้งของ ก.ล.ต.ที่มีถึง TPIPL แล้วมีมติว่านายประชัยยังเหมาะสมที่จะดำรงตำแหน่งกรรมการและกรรมการบริหารของบริษัทต่อไป และสมควรรอการพิจารณาถอนชื่อนายประชัยออกจากการเป็นกรรมการและผู้บริหารของ TPIPL ไว้ก่อน จนกว่าจะทราบผลคดีอาญาถึงที่สุดในชั้นศาลว่าเป็นผู้กระทำผิดตามข้อกล่าวหา